Gat Pat

2 GAT PAT เชื่อมโยง คืออะไร ตอนสอบที่ไหน อะไรบ้าง?

Click to rate this post!
[Total: 178 Average: 5]

GAT PAT

GAT

GAT เป็นการทดสอบวิชาความถนัดทั่วไป (General Aptitude Test) คือ การวัดศักยภาพในการเรียนในมหาวิทยาลัยให้ประสบความสำเร็จ มี 2 ส่วน คือ

  • ส่วนที่ 1 คือ ความสามารถในการอ่าน/การเขียน/การคิดเชิงวิเคราะห์/และการแก้โจทย์ปัญหา
  • ส่วนที่ 2 คือ ความสามารถในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ ประกอบด้วย
    – Speaking and Conversation
    – Vocabulary
    – Structure and Writing
    – Reading Comprehension

# GAT เป็นการสอบที่ดูว่านักเรียนคนหนึ่งมีความพร้อมในการจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยมากน้อยแค่ไหน

PAT

PAT เป็นการทดสอบวิชาความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ (Professional and Academic Aptitude Test) คือ การวัดความรู้ที่เป็นพื้นฐาน กับศักยภาพที่จะเรียนในวิชาชีพนั้น ๆ ให้ประสบความสำเร็จมี 7 วิชา คือ

  • PAT 1 คือ ความถนัดทางคณิตศาสตร์
  • PAT 2 คือ ความถนัดทางวิทยาศาสตร์
  • PAT 3 คือ ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
  • PAT 4 คือ ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์
  • PAT 5 คือ ความถนัดทางวิชาชีพครู
  • PAT 6 คือ ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์
  • PAT 7 คือ ความถนัดทางภาษาต่างประเทศ ประกอบด้วย
    • PAT 7.1 ความถนัดทางภาษาฝรั่งเศส
    • PAT 7.2 ความถนัดทางภาษาเยอรมัน
    • PAT 7.3 ความถนัดทางภาษาญี่ปุ่น
    • PAT 7.4 ความถนัดทางภาษาจีน
    • PAT 7.5 ความถนัดทางภาษาอาหรับ
    • PAT 7.6 ความถนัดทางภาษาบาลี

# PAT เป็นการสอบที่จะดูว่านักเรียนคนหนึ่งมีแววจะเข้าสู่เส้นทางอาชีพในคณะที่เลือกไหม

ที่มา:สทศ

Gat เชื่อมโยง คือ

พูดถึงเรื่อง GAT พาร์ทเชื่อมโยง  โดยเฉพาะเด็กสายศิลป์ที่ต้องเข้าคณะที่ใช้ GAT 30-50% คงสงสัยกันว่าทำไมถึงผิดอยู่บ่อยๆ ในจุดที่ไม่ควรผิด ทำไมเราคิดออกมาแล้วมันได้คะแนนไม่เต็มทั้งๆที่เราคิดว่ามันเต็มแล้ว วันนี้เราจึงอยากจะแจกเทคนิคในการทำข้อสอบ GAT พาร์ทเชื่อมโยง 5 ข้อ เพื่อมั่นใจได้เลยว่า 150 คะแนนจาก Part เชื่อมโยงไม่หนีน้องไปไหนแน่ๆ

1.การวาดแผนภาพอย่าคิดว่าไม่สำคัญ
GAT พาร์ทเชื่อมโยง หัวใจของการทำข้อสอบอยู่ที่การวาดแผนภาพเชื่อมโยง หลายคนไม่สนใจเพราะคิดว่ามันยุ่งยาก ขอให้เปลี่ยนความคิดแล้วเริ่มฝึกวาดแผนภูมิ

2.มีสติและสมาธิเสมอ

ขณะทำข้อสอบ GAT พาร์ทเชื่อมโยงสิ่งสำคัญอีกอย่างนึงก็คือ ต้องมีสติและมีสมาธิอยู่ตลอดเวลา ห้ามอ่านไปเฉยๆเด็ดขาด ขณะอ่านให้ทำการร่างแผนภาพเชื่อมโยงพร้อมกับคิดไปด้วยว่าจุดนี้สามารถเชื่อมโยงไปยังจุดไหนได้และมีจุดไหนที่เชื่อมโยงมายังจุดนี้ ถ้าเกิดเผลออ่านไปเรื่อยๆโดยที่ไม่ได้วิเคราะห์อย่างตั้งใจและมีสติจะทำให้ เราพลาดจุดสำคัญหลายๆจุดแน่นอนครับ ซึ่งคะแนนที่ออกมาก็คงไม่น่าดูแน่ๆ

3.อย่าคิดไปเอง

ในข้อสอบ GAT พาร์ทเชื่อมโยงมักจะมีเรื่องราวในข้อสอบหลายๆ อย่างที่ทำให้ชอบคิดกันไปไกลว่ามันจะเป็นแบบนี้ ทั้งๆ ที่ในเนื้อหาไม่ได้พูดถึงเลย ในการทำ GAT พาร์ทเชื่อมโยงนั้นเราจะต้องคิดโดยเอาบทความเป็นหลัก อะไรที่บทความไม่ได้กล่าวถึงก็ห้ามตั้งขึ้นมาเองเด็ดขาด จำไว้เสมอนะว่าข้อสอบแนวอ่านแล้ววิเคราะห์ ทุกสนามสอบมีอย่างนึงที่เหมือนกันก็คือ คำตอบนั้นจะอยู่แต่ในบทความเท่านั้นห้ามคิดไปเองเด็ดขาด

4.หาคำที่ใช้แทนกันให้เจอ

ขณะทำข้อสอบนั้นมักจะมีคำหลายคำที่ใช้แทนกันได้ตลอด เช่น ในข้อสอบขีดคำว่า แม่น้ำ มาให้และบอกว่า “แม่น้ำ คือ ธารา” แต่ไม่ได้ขีดที่ธารา ซึ่งในเนื้อหาของบทความส่วนหลังๆ มักจะมีการหลอกผู้เข้าสอบให้ผิดง่ายๆ ด้วยการนำคำว่า ธารา มาแทนคำว่า แม่น้ำ เช่น เมื่อบทความบอกว่า “ธาราไหลรินจากเบื้องสูงสู่เบื้องล่าง” ก็ต้องโยงแม่น้ำไปที่การไหลสู่เบื้องล่างนั่นเอง

5.ไฮไลต์คำให้หมด

คำหลักที่ข้อสอบกำหนดมาให้เช่น สิงโต ตัวข้อสอบจะขีดเน้นมาให้ที่เดียวในบทความ แต่คำว่าสิงโตอาจจะมี 5-6 ที่ สิ่งสำคัญก็คือ ต้องไฮไลต์คำหลักที่ข้อสอบไม่ได้ขีดเน้นมาให้หมด เพราะถ้าไม่ไฮไลต์ จุดเชื่อมโยงหลายๆ จุดจะหายไปเพราะความไม่รอบคอบ

นี่ก็เป็น 5 ข้อสู่การพิชิตGAT พาร์ทเชื่อมโยง  เชื่อว่าถ้าทำได้ครบทุกข้อ มีสิติ สมาธิ และความรอบคอบ 150 คะแนนเต็มก็ไม่หายไปไหนแน่ๆ  อย่างไรแล้วอย่าลืมนะ  ว่าทุกคะแนนสำคัญกับอนาคต

Gat Pat สอบที่ไหน

รายชื่อสนามสอบ GAT/PAT ตามอัพเดทได้ที่เว็บ https://www.niets.or.th ของ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ในแต่ละปี

Gat Pat สอบตอนไหน

ติดตามช่วงเวลาสอบ GAT/PAT ตามอัพเดทได้ที่เว็บ https://www.niets.or.th ของ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ในแต่ละปี

ที่มา:http://www.enn.co.th/

อ่านบทความทั้งหมด >>> pangpond.com