Gantt Chart

Gantt Chart 7 ข้อ ดีเสีย ตัวอย่างวิธีทำง่ายๆคือโครงการ?

Click to rate this post!
[Total: 218 Average: 5]
Gantt Chart คือ
Gantt Chart คือ

Gantt Chart คือ

Gantt Chart คือ

แผนภูมิแกนต์ คือ แผนภูมิที่มีการระบุหัวข้อกิจกรรม หรือการดําเนินงานต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในหนึ่งช่วงเวลาของการวางแผนงาน ซึ่งจะมีการแสดงระยะเวลาของแต่ละกิจกรรมให้อยู่ในรูปของเส้นแถบ (Bar) แนวนอน

แผนภูมิแกนต์ (Gantt Chart)

Gantt Chart ใช้ทำอะไร

แผนภูมิแกนต์ มีไว้ใช้เพื่ออะไร

  1. เมื่อต้องการวางแผนกิจกรรมการทํางานที่มีระยะเวลาในการปฏิบัตินาน และคาดว่าจะมีความซับซ้อน
  2. เกิดขึ้นในแต่ละขั้นตอนของกิจกรรม
  3. เมื่อต้องการติดตามความก้าวหน้าของการดําเนินงานเทียบกับเวลาที่ได้วางแผนเอาไว้
  4. เมื่อต้องการดูว่าในการดําเนินโครงการมีกิจกรรมอะไรบ้างที่จะต้องทําในช่วงเวลาเดียวกัน
  5. เมื่อต้องการจัดลําดับขั้นตอนการทํางาน

ก่อนที่จะลงมือสร้างแผนภูมิแกนต์ควรมีการแยกย่อยงานในโครงการเพื่อได้ข้อมูลที่จําเป็นต่อการ
นําไปสร้าง โดยมีลําดับขั้นตอน ดังนี้

  1. แยกย่อยแผนงานของโครงการออกเป็นกิจกรรมหรืองานย่อย ๆ เพื่อให้เหมาะต่อการจัดการในเรื่อง
    ของเวลา งบประมาณ และความสามารถในการทําให้เสร็จทันเวลาที่กําหนดไว้
  2. พิจารณาว่าใครควรเป็นผู้รับผิดชอบในแต่ละกิจกรรมหรืองานของโครงการ
  3. เมื่อได้ผู้ที่รับผิดชอบในแต่ละกิจกรรมแล้ว ให้ตกลงกันถึงเนื้องาน ระยะเวลา (อาจกําหนดวันส่งงาน)
    และงบประมาณ
  4. จากนั้นให้พิจารณาดูภาพรวมทั้งหมดอีกครั้งว่าสิ่งที่ตกลงกันไว้นั้นยังคงอยู่ในกรอบที่ได้ถูกกําหนดมา
    ตั้งแต่ตอนแรกหรือไม่

ตัวอย่าง Gantt Chart

ตัวอย่างกิจกรรมและระยะเวลาในการสร้างอุปกรณ์แจ้งเตือนการลืมปิดไฟ

แจ้งเตือนการลืมปิดไฟ

เมื่อได้ข้อมูลจากการวิเคราะห์โครงการข้างต้น จึงลงมือสร้างแผนภูมิแกนต์

วิธีการสร้างแผนภูมิแกนต์

  1. สร้างตารางที่แถว (Row) ด้านบนสุดของตารางแบ่งเป็นช่องของเวลา อาจใช้เป็นชั่วโมง วัน เดือนหรือ
    ปี ขึ้นอยู่กับวางแผนกิจกรรมว่าจะมีรายละเอียดเพียงใด กําหนดระยะห่างของเวลาตามเวลาในการ
    ดําเนินงาน
  2. ในสดมภ์ (Column) ด้านซ้ายสุดของตารางให้บันทึกกิจกรรมหรืองานตามลําดับขั้นตอนก่อนหลังใน
    การปฎิบัติในช่วงระยะเวลาของโครงการ
  3. ในสดมภ์ด้านขวาสุดของตารางอาจใส่ชื่อผู้รับผิดชอบของแต่ละกิจกรรมที่ตกลงกันไว้
  4. เมื่อได้กิจกรรมและระยะเวลาแล้ว จึงระบุระยะเวลาในการวางแผน (Plan) โดยเริ่มจากกิจกรรมหรือ
    งานแรกก่อน ให้กําหนดวันเริ่มงานและระบุระยะเวลาในการปฏิบัติงานด้วยการวาดรูปสี่เหลี่ยมหรือ
    ลากเส้นแนวนอนลงในช่องถัดจากงานที่เริ่มทําวันแรก แล้วขยายสี่เหลี่ยมหรือเส้นออกไปทางขวามือ
    ตามระยะเวลาปฏิบัติงานนั้น ๆ
  5. ในกรณีที่กิจกรรมหรืองานต่อไปจะเริ่มได้เมื่อกิจกรรมแรกสิ้นสุดก่อนนั้น ให้วาดสี่เหลี่ยมหรือลากเส้น
    แนวนอนของกิจกรรมที่สองต่อจากจุดสิ้นสุดของกิจกรรมแรก และอาจวาดลูกศรเชื่อมระหว่าง
    จุดสิ้นสุดของกิจกรรมแรกกับจุดเริ่มต้นของกิจกรรมที่สองด้วย
  6. ในการติดตามความก้าวหน้าของกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีการดําเนินการจริงอาจให้วาดเส้นหนาทึบลงกลาง
    ช่องสี่เหลี่ยมเพื่อแสดงว่างานได้ดําเนินไปถึงขั้นไหนแล้วหรือลากเส้นแนวนอนที่มีลักษณะแตกต่างจาก
    เส้นที่ใช้วางแผน เช่น ใช้เส้นประหรือสีที่แตกต่าง
  7. อาจใช้การลากเส้นประในแนวตั้งเพื่อแสดงวันหรือเวลาที่งานกําลังดําเนินอยู่ในปัจจุบัน หรือการทํา
    เครื่องหมายเน้นให้เห็นงานที่ควรจะเสร็จก่อนหน้านี้ แต่ยังทําไม่เสร็จ
  8. ในการทําแผนภูมิแกนต์ อาจทําในลักษณะย้อนหลัง โดยเริ่มจากกําหนดเวลาที่ต้องเสร็จสิ้นโครงการ
    ว่ามีเวลาอยู่เท่าใด จึงนําเวลาย้อนกลับมาเพื่อดูความเป็นไปได้ในการทําโครงงานนี้ที่ใช้วางแผนในการ
    ดําเนินการในแต่ละกิจกรรม

ตัวอย่างแผนภูมิแกนต์การปฏิบัติงานสร้างอุปกรณ์แจ้งเตือนการลืมปิดไฟ

อุปกรณ์แจ้งเตือนการลืมปิดไฟ

gantt chart
gantt chart

ลักษณะของโครงการที่ดีมีดังต่อไปนี้

  1. สามารถแก้ปัญหาองค์กร หรือหน่วยงานได้
  2. มีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดผลตอบแทนคุ้มค่า
  3. รายละเอียดของโครงการต้องสอดคล้อง และสัมพันธ์กัน

ส่วนประกอบของโครงการมีอะไรบ้าง

  1. ชื่อโครงการ
  2. ผู้รับผิดชอบโครงการ
  3. หลักการและเหตุผล
  4. วัตถุประสงค์
  5. กลุ่มเป้าหมายและพื้นที่ดาเนินงาน
  6. วิธีการดาเนินการ
  7. ระยะเวลาดาเนินการ
  8. ปฏิทินกิจกรรมหรือปฏิทินงานในโครงการ
  9. การประเมินผ
  10. งบประมาณ
  11. ผลที่คาดว่าจะได้รับ

ประโยชน์ของโครงการ

  1. ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้อ่านให้มีความเข้าใจในเนื้อหาสาระได้อย่างถูกต้องชัดเจนและตรงตามเจตนาของผู้เขียนโครงการ 
  2. ช่วยประหยัดเวลาแก่ผู้อนุมัติด้วยการใช้เวลาอ่านเพียงเล็กน้อยก็สามารถที่จะตัดสินใจได้
  3. ช่วยให้การปฏิบัติงานตามโครงการเป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้
  4. เป็นการแสดงถึงประสบการณ์การทำงานของผู้เขียนโครงการ

gantt chart excel วิธีทํา

สำหรับการสร้าง Gantt chart ใน Excel คุณสามารถทำได้โดยใช้ขั้นตอนต่อไปนี้:

  1. เปิดโปรแกรม Excel และสร้างตารางใหม่ โดยกำหนดคอลัมน์ต่อไปนี้:
    • Column A: ชื่องาน (Task Name)
    • Column B: วันที่เริ่มต้น (Start Date)
    • Column C: ระยะเวลา (Duration)
  2. ใส่ข้อมูลงานในแต่ละแถวของตาราง โดยระบุชื่องานในคอลัมน์ A, วันที่เริ่มต้นในคอลัมน์ B, และระยะเวลาในคอลัมน์ C โดยใช้หน่วยของเวลาที่เหมาะสม เช่น วัน, สัปดาห์, เดือน
  3. คำนวณวันสิ้นสุดของแต่ละงานโดยใช้สูตรในคอลัมน์ D. เริ่มต้นในเซลล์ D2 และใช้สูตร =B2+C2-1 แล้วคัดลอกสูตรนี้ลงในเซลล์ D3 ถึงต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครอบคลุมทุกงาน
  4. สร้างแผนภูมิ Gantt chart โดยใช้การจัดรูปแบบเซลล์ใน Excel:
    • เลือกช่วงข้อมูลในตารางทั้งหมด รวมถึงหัวข้อคอลัมน์
    • เปิดเมนู “Insert” แล้วเลือก “Bar Chart” จากเมนู “Charts”
    • เลือกแผนภูมิแท่งแนวนอนที่คุณต้องการ เช่น “Stacked Bar Chart” หรือ “Bar Chart with Gaps”
  5. ปรับแต่งแผนภูมิ Gantt chart:
    • ปรับแกนเวลาแนวนอนให้เป็นรูปแบบที่ถูกต้อง เช่น เพิ่มหน่วยของเวลา, ปรับขนาดของแกนตามความเหมาะสม
    • เพิ่มป้ายกำกับแกนตั้งและแกนนอน เพื่อให้ง่ายต่อการอ่านและเข้าใจ
  6. ปรับปรุงและแก้ไข Gantt chart ตามความเหมาะสมของโครงการ โดยอัพเดตข้อมูลในตาราง Excel และแผนภูมิ Gantt chart จะอัพเดตโดยอัตโนมัติ

สามารถเพิ่มรายละเอียดและปรับปรุงการจัดรูปแบบของ Gantt chart ใน Excel เพิ่มเติมตามความต้องการของคุณได้

การเขียน gantt chart โครงการ

เมื่อคุณต้องการเขียน Gantt chart สำหรับโครงการ คุณสามารถทำได้โดยปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้:

  1. ระบุงานทั้งหมด: ระบุรายการงานที่ต้องทำในโครงการ และกำหนดชื่อให้แต่ละงานเพื่อให้มีความชัดเจน
  2. กำหนดระยะเวลา: กำหนดวันที่เริ่มต้นและสิ้นสุดของแต่ละงาน โดยใช้หน่วยของเวลาที่เหมาะสม เช่น วัน, สัปดาห์, เดือน
  3. สร้างตาราง Gantt chart: สร้างตารางหรือกราฟที่มีแกนเวลาแนวนอน และแกนงานแนวตั้ง โดยแต่ละแท่งบนแกนตั้งจะแสดงรายการงาน และความยาวของแท่งแสดงระยะเวลาที่ใช้ในการดำเนินงาน
  4. เชื่อมต่องาน: หากมีความสัมพันธ์ระหว่างงาน สามารถใช้เส้นต่อเนื่องหรือเส้นลูกศรแสดงการเชื่อมต่อระหว่างงาน ทำให้เห็นความลำดับและความสัมพันธ์ของงานในโครงการได้ชัดเจน
  5. ปรับปรุงและแก้ไข: ตรวจสอบและปรับปรุง Gantt chart เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงงานที่เกิดขึ้นในระหว่างโครงการ
  6. แบ่งปัน Gantt chart: แบ่งปันแผนภูมิ Gantt chart กับทีมงานหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทุกคนเข้าใจและทราบถึงความคืบหน้าและกำหนดงานของโครงการ

การใช้เครื่องมือออนไลน์หรือซอฟต์แวร์สร้าง Gantt chart อาจช่วยให้กระบวนการสร้าง Gantt chart ง่ายขึ้นและมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยสามารถใส่รายการงานและระยะเวลาผ่านอินเตอร์เฟสได้เลย

gantt chart ข้อดี ข้อเสีย

Gantt chart เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวางแผนและจัดการโครงการ โดยแสดงผลลัพธ์ในรูปแบบตารางและกราฟที่เข้าใจง่าย ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียดังนี้:

ข้อดีของ Gantt chart:

  1. การแสดงแผนภาพเวลา: Gantt chart ช่วยแสดงระยะเวลาและการเรียงลำดับงานในโครงการได้อย่างชัดเจน ทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับโครงการสามารถเห็นข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับเวลาที่ต้องใช้ในแต่ละงาน
  2. การจัดการและการแก้ไขงาน: Gantt chart ช่วยให้ผู้บริหารโครงการสามารถดูและควบคุมงานที่กำลังดำเนินการในโครงการได้โดยง่าย เมื่อเกิดปัญหาหรือข้อบกพร่องใดๆ ผู้บริหารสามารถปรับแก้แผนงานได้ทันที
  3. การแบ่งงานและการกระจายงาน: Gantt chart ช่วยให้ทีมงานเห็นภาพรวมของงานทั้งหมดและมีการกระจายงานที่ชัดเจน ทำให้ทีมสามารถแบ่งหน้าที่และตารางงานของตนเองได้อย่างเหมาะสม
  4. การเข้าใจง่าย: รูปแบบตารางและกราฟใน Gantt chart ทำให้ข้อมูลเป็นภาพที่เข้าใจง่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารโครงการหรือสมาชิกในทีมงาน สามารถอ่านและเข้าใจข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว

ข้อเสียของ Gantt chart:

  1. การวางแผนที่ซับซ้อน: ในโครงการที่ซับซ้อนหรือมีงานที่มีความซับซ้อน Gantt chart อาจไม่สามารถแสดงรายละเอียดที่เพียงพอ อาจเกิดความสับสนหรือขาดความชัดเจนในการวางแผน
  2. ข้อมูลการเปลี่ยนแปลง: เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงในโครงการ เช่น การเพิ่มงาน การลดระยะเวลา หรือการเลื่อนงาน การปรับแก้ Gantt chart อาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลานาน
  3. ข้อจำกัดของเวลา: Gantt chart จะไม่สามารถแสดงรายละเอียดของกิจกรรมในขณะที่เกิดพระเอกขึ้น โดยเฉพาะในโครงการที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ หรือการดำเนินการที่ไม่แน่นอน

ในการเปรียบเทียบรูปแบบแบบตาราง Gantt chart และรูปแบบกราฟนั้น เราสามารถวิเคราะห์และเลือกใช้รูปแบบที่เหมาะสมตามความต้องการของโครงการและทีมงานได้ รูปแบบตารางมีความกระชับและมองเห็นข้อมูลเวลาได้ชัดเจน ในขณะที่กราฟนั้นสามารถแสดงความสัมพันธ์ระหว่างงานและช่วงเวลาได้อย่างชัดเจน

ที่มา:

http://designtechnology.ipst.ac.th/wp-content/uploads/sites/83/2019/01/%E0%B9%83%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-gantt-chart.pdf