โดเมนเนม หมายถึง

6 Domain โดเมนเนมแนวตั้งชื่อลักษณะความหมาย?

Click to rate this post!
[Total: 155 Average: 5]

Domain

เชื่อว่าผู้ใช้งานอาจจะไม่ทราบว่าเว็บไซด์หรือการท่องโลกอินเตอร์เน็ตเพื่อเข้าสู่เว็บต่าง ๆ ได้นั้นเรียกว่าอะไร ส่วนใหญ่เรามักจะรู้จักแค่เพียงการที่เราค้นหาทุกอย่างผ่าน Google เท่านั้น

domainnameความหมาย
Domain

Domain

มารู้จักกับ Domain กันเถอะ

ทั้งนี้แท้จริงแล้วเว็บไซด์ที่เราคลิกผ่าน Google หรือแม้แต่ Google เอง ก็ถือได้ว่าเป็น Domain name แห่งหนึ่งเช่นกัน เพื่อให้เราสามารถเข้าใจการท่องเว็บไซด์และการใช้งานโลกอินเตอร์เน็ตมากขึ้น เราจึงควรทำความรู้จักกับ Domain กันเถอะ

Domain คืออะไร

โดเมน

โดเมน

ความหมายหมาย Domain name “Domain” อ่านว่า “โดเมน” คือชื่อที่อยู่ที่เป็นแหล่งอ้างอิงของเว็บไซด์ (Website) ต่าง ๆ บนโลกอินเตอร์เน็ต เพื่อให้การเข้าใช้งานหรือเข้าถึงเว็บไซด์เป็นไปได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น โดยทั่วไปแล้วการเข้าถึงแหล่งข้อมูลจะต้องใช้ IP

Address ที่มีแค่ตัวเลขและจุด (เช่น 172.16.255.49 เป็นต้น) ซึ่งเป็นการยากต่อการจดจำเลขทะเบียนเช่นนี้ ทำให้โดเมนจึงเข้ามามีบทบาท โดยจะเปลี่ยนการจดจำ IP Address แต่เราสามารถจดทะเบียนเป็นชื่อได้แทน เพื่อให้การเรียกแต่ละเว็บไซด์ง่ายมากยิ่งขึ้น รวดเร็วมากขึ้น

 

ทั้งนี้ สามารถใช้การจดทะเบียนโดเมนได้ในหลายชื่อเพื่อเข้าสู่เว็บไซด์เดียวก็ทำได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่นเว็บไซด์แห่งหนึ่งจดทะเบียนไว้สองชื่อเพื่อสู่เว็บไซด์แหล่งเดียวได้ ไม่ว่าจะเป็น thedomain.com หรือชื่อ thedomains.com ไม่ว่าจะพิมพ์ข้อความค้นหาชื่อใดชื่อหนึ่งก็จะเข้าสู้เว็บไซด์ได้ที่เดียวกันทันที

โดเมนเนม คือ

ลักษณะของ Domain

domain name

domain name

            Domain โดเมนจะมีด้วยกัน 2 ส่วนหลัก ๆ ดังนี้

  1. Unique Domain คือ ส่วนของชื่อโดเมน
  2. Extension Domain คือ ส่วนของนามสกุลโดเมน

ตัวอย่างเช่น www.Easydomain.co.th โดยจะสามารถแยกได้เป็นส่วนของชื่อโดเมน (Unique Domain) คือ Easydomain และส่วนของนามสกุล (Extension) คือ .co.th

 

ประเภทของ Domain

นอกจากนี้โดเมนยังมีระดับด้วยเช่นกัน โดยจะประกอบไปด้วย 2 ประเภท ดังต่อไปนี้

  1. แบบ 2 ระดับ โดยมี ชื่อ+นามสกุล คือ www.ชื่อโดเมน.นามสกุลโดเมน เช่น www.Easydomain.com เป็นต้น
    • ตัวอย่างตัวย่อที่พบบ่อย ได้แก่
      • com คือ บริษัท หรือ องค์กรพาณิชย์
      • .net คือ องค์กรที่เป็นเกตเวย์ หรือ จุดเชื่อมต่อเครือข่าย
      • .org คือ องค์กรเอกชนที่ไม่แสวงผลกำไร
      • .edu คือ สถาบันการศึกษา
      • .gov คือ องค์กรของรัฐบาล
      • .mil คือ องค์กรทางทหาร
  2. แบบ 3 ระดับ โดยมี ชื่อ + นามสกุล + รหัสประเทศ คือ www.ชื่อโดเมน.นามสกุลโดเมน.ประเทศ เช่น www.Easydomain.co.th เป็นต้น
    • ตัวอย่างตัวย่อที่พบบ่อย ได้แก่
      • co คือ บริษัท หรือ องค์กรพาณิชย์
      • .ac คือ สถาบันการศึกษา
      • .go คือ องค์กรของรัฐบาล
      • .net คือ องค์กรที่ให้บริการเครือข่าย
      • .or คือ องค์กรเอกชนที่ไม่แสวงผลกำไร
    • ตัวอย่างตัวย่อของประเทศที่ตั้งขององค์กร
      • th คือ ประเทศไทย
      • .cn คือ ประเทศจีน
      • .uk คือ ประเทศอังกฤษ
      • .jp คือ ประเทศญี่ปุ่น
      • .au คือ ประเทศออสเตรเลีย

ข้อดีและประโยชน์หลัก

ช่วยให้ผู้ใช้งานทั้งเจ้าของหรือผู้เยี่ยมชมเข้าถึงได้ง่าย ไม่สับสนการเข้าสู่เว็บไซด์ (Website) ต่าง ๆ ป้องกันการใส่ที่อยู่ผิดได้ด้วยเช่นกันนอกจากนี้ยังสามารถมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขไอพีแอดเดรส ใช้ IP Address ของชื่อโดเมนเนมนั้นๆ โดยไม่กระทบกับชื่อ Domain Name หรือก็คือไม่กระทบต่อชื่อเว็บไซด์ตัวอักษรที่เราเห็น ๆ กันอยู่นั้นเอง

เว็บไซต์คือ

เว็บไซต์คือ

            เมื่อต้องมีการท่องโลกอินเตอร์เน็ตชื่อโดเมน หรือที่เรียกว่าเป็น โดเมนเนม Domain name จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นเสมือนประตูที่จะช่วยให้ผู้เยี่ยมชมหรือลูกค้าให้ความสนใจหรือเข้าถึงเว็บไซด์ของคุณได้ เรียกได้ว่าหากตั้งชื่อ Domain name เป็นอย่างดีหรือมีชื่อเฉพาะเจาะจงด้วยแล้วก็จะทำให้การค้นหาถูกพบได้มากขึ้น ตรงกับกลุ่มลูกค้าหรือผู้เยี่ยมชมซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะโฆษณาโดยตรงหรือไม่ก็ตาม ก็จะทำให้เพิ่มโอกาสการเข้าถึง หรืออีกนัยหนึ่งก็คือพวก Search Engine ชื่อดังต่าง ๆ เช่น Google Yahoo etc. จะแสดงคำค้นหาโดยปรากฏโดเมนเนม Domain name หรือเว็บไซด์ที่มีความเกี่ยวข้องมากที่สุดขึ้นมาด้วยนั้นเอง

การตั้งชื่อ Domain name

แนวทางการตั้งชื่อ Domain name

แน่นอนว่าที่สุดของการทำเว็บไซด์ก็คือการคิดแล้วคิดอีกว่าจะตั้งชื่อว่าอะไร ซึ่งก็มีหลักการที่คล้ายคลึงกับการที่เราจะตั้งชื่อแบรนด์นั้นเอง แล้วก็อย่าลืมว่าการจดทะเบียนตั้งชื่อแต่ละครั้งนั้นจะต้องจดทะเบียนเป็นอย่างน้อย 1-10 ปีเลยทีเดียว ซึ่งจะต้องคำนึงถึงรายละเอียดพอสังเขปได้ ดังนี้

 
  1. คำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการตั้งเว็บไซด์ขึ้นมาเป็นหลัก ชื่อควรสอดคล้องกับเป้าหมายหรือแบรนด์หรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับบริษัท
  2. ชื่อไม่สั้นไม่ยาวเกินไป ถ้าเป็นคำยากก็ต้องมีพยางค์ที่สอดคล้องกัน สามารถออกเสียงหรือไม่สับสน พบว่าชื่อสั้นมักจะได้รับความนิยมและได้รับความสนใจมากกว่า มักใช้คำที่โดดเด่น
  3. หากกลัวว่าผู้เข้าชมหรือลูกค้าจะเกิดความสับสบจะต้องมีการตั้งชื่อที่คล้ายกันเพื่อเข้าสู่เว็บไซด์เดียวกันได้ เช่น กรณีชื่อโดเมนมี S และไม่มี S ก็สามารถตั้งชื่อโดยจดทะเบียนโดเมนเนมทั้งสองชื่อเลยก็ได้
  4. หากไม่รู้จะตั้งชื่ออะไรจริง ๆ ก็สามารถเลือกคำที่ไม่มีความหมายก็ได้เช่นกัน โดยควรจะเป็นคำที่อ่านง่าย หรือเอาคำมาเล่นเพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ หรืออาจจะเลือกชื่อโดเมนมาจากที่เป็นวัตถุประสงค์ของการทำเว็บไซด์นั้น ๆ ขึ้นมาก็ได้ เพื่อให้คำค้นหาสามารถเข้าถึงเว็บไซด์ได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นนั้นเอง
  5. ควรหลีกเลี่ยงเครื่องหมาย หรืออักขระแปลกพิเศษ เช่น –
  6. สามารถเลือกการใช้ตัวเลขแทนได้ในชื่อโดเมน แต่ควรใส่แค่พอดีไม่ยาวหลายหมายเลขจนเกินไป

ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider) คือ องค์กรผู้ให้บริการเชื่อมต่อระบบการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตให้กับลูกค้า ซึ่งอาจเป็นร้านค้าหรือผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วไป โดยผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรับและจดทะเบียนชื่อโดเมน (Domain Name) หรือจะจัดตั้งร้านค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ร้านค้านำโฮมเพ็จมาฝากเพื่อขายสินค้า