ไหว้เจ้าที่ใช้ธูปกี่ดอก

108 ไหว้เจ้าที่ใช้ธูปกี่ดอก จุดกลางแจ้งที่ไม่มีใครบอก?

Click to rate this post!
[Total: 154 Average: 5]

ไหว้เจ้าที่ใช้ธูปกี่ดอก

ไหว้เจ้าที่กลางแจ้ง ใช้ธูปกี่ดอก ? : 7 หรือ 9 ดอก

ความเชื่อเรื่องกํารไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ความเชื่อ หมายถึง การยอมรับว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นความจริง หรือมีการดารงอยู่จริง โดยอาศัยประสบการณ์ตรง การไตร่ตรอง หรือการอนุมาวิธีพระพรหม สามารถไหว้ได้ทุกวัน ธูปด้านละ 16 ดอก พวงมาลัย ดาวเรือง 1 พวง

จุดธูปไหว้เจ้าที่กี่ดอก ไหว้เจ้าที่ไร่สวน

ไหว้เจ้าที่ใช้ธูปกี่ดอก บทสวด

คํากล่าวบูชา

นะโม 3 จบ
โอม พระพรหมมา ปะฎิพาหายะ ทุติยัมปิ พระพรหมมา ปะฎิพาหายะ
ตะติยัมปิ พระพรหมมา ปะฎิพาหายะ อิติสุขะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ
ปัตทะวีคงคา พระพรหมมะเทวา ขะมามิหัง
ถ้าจาคาถาไม่ได้ ให้เรียกชื่อท่าน 3 ครั้งดังนี้…
โอม พระพรหม เทวานัง
โอม พระพรหม เทวานัง
โอม พระพรหม เทวานัง

ข้าพเจ้า (แจ้งชื่อ-นามสกุล) ขอน้อมกราบนมัสการองค์ท่านท้าวมหาพรหมผู้เป็นใหญ่ในแดนสรวง….ข้าพเจ้าขอน้อมทูลเชิญญาณพระบารมีขององค์ท่านท้าวมหาพรหมได้โปรดเสด็จลงมาประทับอยู่นะที่นี้เพื่ออำนวยอวยพรให้แก่ข้าพเจ้าทาสิ่งใดประสบความสาเร็จ หากมีกรรมอันใดคอยเหนี่ยวรั้งไม่ว่าจะเป็น หน้าที่การงาน,สุขภาพร่างกาย ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิฐาน(ทำสมาธิตั้งจิตอธิฐานสักครู่) ขอให้คาวิงวอนดั่งกล่าวสัมฤิทธิ์ผลด้วยบุญพระบารมีขององค์ท่านท้าวมหาพรหมด้วยเทอญ

ปักธูป 16 ดอก พร้อม พวงมาลัย 1 พวง
(สามารถไหว้ได้ทั ้งหมด 4 ทิศ โดยปักธูปทิศละ 16 ดอก พร้อมพวงมาลัยทิศละ 1 พวง)
ใช้มือทั้งสองข้างอังที่ควันธูปแล้ววักเข้าหาตัว 3 ครั้งเพื่อขอบารมีปกปักรักษาและชาระล้างสิ่งไม่ดีติดขัดต่างๆ ให้หมดไปเพื่อความเป็นสิริมงคล

ไหว้ศาลเจ้าที่ใช้ธูปกี่ดอก
คำกล่าวบูชาเจ้าที่

เมื่อครบทุกด้านและมายืนตรงด้านหน้าขององค์ท่านท้าวมหาพรหมให้กล่าวดังนี้ ข้าพเจ้าได้ทาการวิงวอนต่อองค์ท่านท้าวมหาพรหมทั้ง 4 ทิศ ณ บัดนีี้ขอให้คาวิงวอนดังกล่าวสัมฤิทธิ์ผลไม่ว่าข้าพเจ้าเดินทางไปแห่งหนตาบลใด ในประเทศ หรือต่างประเทศ ขอให้คาวิงวอนดังกล่าวสัมฤิทธิ์ผลด้วยบุญพระบารมีขององค์ท่านท้าวมหาพรหมด้วยเถิดการไหว้ท้าวมหาพรหมต้องไหว้ให้ครบทั้ง 4 หน้า ดั่งคากล่าวที่ว่าดอกไม้ครบดอกแล้วกลับมาอธิฐาน ณ. จุดเดิมเพื่อวิงวอนขอพรต่อท่านท้าวมหาพรหมเหล่านั้นติดตามเราไปทุกทิศทุกทาง

การกราบไหว้พระพรหมความเชื่อแต่ละทิศ

  • ทิศเหนือ บูชาเพื่อขอพรเรื่อง อาชีพ หน้าที่การงาน
  • ทิศใต้ บูชาเพื่อขอพรเรื่อง เกี่ยวกับเกียรติยศ ชื่อเสียง
  • ทิศตะวันตก บูชาเพื่อขอพรเรื่อง อนาคต
  • ทิศตะวันออก บูชาเพื่อขอพรเรื่อง ครอบครัว

จุดธูปไหว้เจ้าที่กี่ดอก

  • ไหว้เจ้าที่ เจ้าทาง : ใช้ธูป 7 ดอก
  • ไหว้ศาลพระภูมิ : ใช้ธูป 9 ดอก
  1. จุดธูป 9 ดอก เทียน 2 เล่ม (จุดหรือไม่จุดก็ได้)
  2. ดอกไม้ พวงมาลัย ถวายไก่ต้ม
  3. เหล้าขาว ผลไม้ ขนมหวาน หรืออย่างอื่นก็ตามที่เห้นว่าเหมาะสม
  4. สามารถไหว้ได้ทั้งวัน (แต่แนะำช่วงเช้าดีกว่า)
  5. อาหารที่ไหว้เสร็จหลังจากธูปดับ สามารถลามาทานได้
ไหว้เจ้าที่ธูปกี่ดอก
ไหว้เจ้าที่ธูปกี่ดอก

ไหว้ผีบ้าน ผีเรือน : ศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ และครูบาอาจารย์ที่เสียชีวิตแล้ว

  1. ธูป 7 ดอก เทียน 2 เล่ม (จุดหรือไม่จุดก็ได้)
  2. อาหารเช่นเดียวกับไหว้เจ้าที่ แต่ควรมีของคาว เช่น ปลาหมึกลวก หรือ ต้ม ทำเป็นกระทง หรือ อาหารวางหน้าบ้าน คุณก็ไหว้หน้าบ้าน โดยหันหน้าเข้าบ้าน
    (เพราะถ้าหันออกตัวบ้าน สัมพเวสีที่อื่นๆ อาจจะมาบ้านคุณด้วย) ธูปปักในอาหาร ดินหรือกระถางธูปก็ได้
  3. แนะนาให้ไหว้หลังจากบ่ายโมง หรือ ตอนค่า แต่ของไหว้ ไม่ควรนามารับประทาน

ไหว้ต้นไทร : มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

  1. ต้นไทรมหาวิทยาลัยจะไม่สักการะโดยการจุดธูป เทียน จะใช้มาลัยในการสักการะเท่านั้น ในส่วนของอาหารต่างๆจะใช้เช่นเดียวกับไหว้เจ้าที่
  2. มีอาหาร ผลไม้หรือน้ำหวานก็ได้

ความเชื่อเรื่องการจุดธูปบูชา

  • การจุดธูปบูชา คือการใช้ธูปเป็นสื่อกลางในการขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นเรื่องของความเชื่อที่สืบทอดต่อๆ กันมา
  • การจุดเทียน หมายถึง ไหว้พระรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์การจุดเทียน เป็นตัวแทนของ แสงสว่างชีวิตดอกไม้หอม แทนคุณงามความดี ความเจริญการสักการะถือเป็นการทาอมิสบูชาให้เกิดมงคลแก่ชีวิตโดยการบูชาสิ่งที่ดี ทาให้ตัวเรา มีบารมีมากขึ้น จึงใจสงบขึ้น
จุด ธูป 108 ดอก กลางแจ้ง บท สวด
จุดธูป 108 ดอก เพื่อ อะไร

จุดธูป 108 ดอกเพื่ออะไร

  • จุดธูป 1 ดอก : เป็นการจุดไหว้เจ้าที่เจ้าทาง ผีบ้านผีเรือน วิญญาณภาคพื ้น
  • จุดธูป 2 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิญญาณและการจุดธูปบนอาหาร
  • จุดธูป 3 ดอก : เป็นการจุดธูปบูชาพระรัตนตรัย บูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
  • จุดธูป 4 ดอก : เป็นเรื่องเกี่ยวกับธาตุสี่ ใช้ในการสวดเสริมดวงชะตาราศี
  • จุดธูป 5 ดอก : เป็นการจุดธูปบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พ่อแม่และครูบาอาจารย์
  • จุดธูป 6 ดอก : เป็นการ จุดธูปเสริมดวงชะตาตามกาลังไฟของอาทิตย์ ของคนที่เกิดวันอาทิตย์
  • จุดธูป 7 ดอก : เป็นการจุดบูชาจิตวิญญาณตามศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ และครูบาอาจารย์ที่เสียชีวิตแล้ว
  • จุดธูป 8 ดอก : เป็นการเสริมดวงชะตา ตามกาลังพระอังคาร และตามจานวนอัฎฐเคราะห์
  • จุดธูป 9 ดอก : เป็นการจุดธูปบูชาผู้มีพระคุณ พระภูมิเจ้าที่ ศาลเทพ เจ้าป่า เจ้าเขา รุกขเทวดา
  • จุดธูป 10 ดอก : เกี่ยวข้องกับธาตุไฟ ตามกาลังของพระเสาร์ มีกาลัง 10 เพื่อใช้ในการสวดเสริมดวงชะตา
  • จุดธูป 11 ดอก : ใช้บูชาเทวดาชั ้นสูง
  • จุดธูป 12 ดอก : ในการบูชาตามกาลังพระราหู ใช้ในการสวดเสริมดวงชะตา คนที่เกิดวันพุธกลางคืน
  • จุดธูป 13 ดอก : เป็นเลขไม่เป็นมงคล จึงไม่นิยมจุดบูชา
  • จุดธูป 14 ดอก : ใช้จุดธูปบูชารูปปั้นพระสงฆ์ (เป็นการบูชาคุณพระสงฆ์)
  • จุดธูป 15 ดอก : ใช้สวดบูชาดวงชะตา เกี่ยวข้องกับธาตุ ตามกาลังของดาวจันทร์
  • จุดธูป 16 ดอก : เป็นการจุดธูปบูชาเทพชั ้นสูง บูชาเทพชั ้นครู หรือ พิธีกลางแจ้งที่มีการอัญเชิญเทวดาที่สาคัญหมายถึงสวรรค์ 16 ชั้น
  • จุดธูป 17 ดอก : เป็นการเสริมดวงชะตา สวดเสริมดวงชะตา
  • จุดธูป 18 ดอก : ไม่นิยมจุด
  • จุดธูป 19 ดอก : บูชาเทวดาทั้ง 10 ทิศ
  • จุดธูป 21 ดอก : บูชาพระคุณของพ่อ การบูชาแม่พระธรณี
  • จุดธูป 32 ดอก : ใช้สวดชุมนุมเทวดาทั ้ง 4 ทิศ การไหว้ 16 ชั ้นฟ้ า 15 ชั ้นดินครับและ 1 โลกมนุษย์
  • จุดธูป 39 ดอก : การบูชาพระแม่โพสพ
  • จุดธูป 56 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบูชาคุณพระพุทธเจ้า
  • จุดธูป 108 ดอก : บูชาสิ่งสูงสุดทั่วทั ้งโลกทุกชั ้นฟ้ า

ผลไม้มงคล

องุ่นแดง
องุ่นแดง
  • องุ่นแดง : ผลไม้แห่งความงอกงาม องุ่นเป็นผลไม้ที่มีความหมายดีในแง่ของภาษาจีนแต้จิ๋ว โดยคนจีนแต้จิ๋วจะเรียกว่า “ผู้ท้อ” แปลว่า “งอกงาม” ดังนั้นการนาองุ่นมาเป็นของไหว้ จะทาให้ผู้ไหว้และครอบครัวมีความเจริญรุ่งเรือง เติบโตงอกงามนั่นเอง แต่เน้นว่าต้องเป็นองุ่นสีแดง เพื่อเอาเคล็ดเรื่องสีที่เป็นมงคล เป็นสีแห่งความเฮง
  • สัปปะรด : สาหรับสับปะรดภาษาจีนแต้จิ๋วเรียกว่า “อั่งไล้” แปลว่า เรียกสีแดงมา โดยคาว่า อั่งแปลว่าสีแดง ส่วนคาว่า ไล้ แปลว่า เรียกมาหาเรา เมื่อรวมกันจึงแปลความได้ว่า เรียกสีแดงหรือเรียกความโชคดีให้มาหาเรา จึงควรมีสับปะรดเป็นหนึ่งในของไหว้ อย่าได้ขาด
  • ส้มสีทอง : ผลไม้แห่งสิริมงคล ต้องเลือกส้มที่เปลือกมีสีส้มหรือสีเหลืองทอง เหตุที่ต้องเป็นส้มสีทองก็เพราะ สีทอง เป็นสีแห่งความเป็นสิริมงคล ไม่จาเป็นว่าต้องเป็นส้มสายพันธุ์พิเศษอะไร ขอให้มีเปลือกส้ม
แก้วมังกร
แก้วมังกร
  • แก้วมังกร : ผลไม้แห่งความอุดมสมบูรณ์ ด้วยชื่อเรียกของผลไม้ชนิดนี้ก็น่าเกรงขามแล้วสำหรับแก้วมังกร ตามคติความเชื่อของชาวจีนจะนับถือมังกรเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยกันว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งแก้วมังกรมีเปลือกเป็นสีแดง เป็นสีมงคลนาพาความ ” เฮง เฮง เฮง ” มาให้ครอบครัว
  • กล้วย : ผลไม้แห่งความมั่งมี แนะนำว่าเป็นกล้วยหอมทองจะดีที่สุด ด้วยลักษณะของกล้วยที่ออกเป็นเครือ จึงมีความหมายในทางมงคลว่า ทำให้ครอบครัวเจริญงอกงามมีลูกหลานมากมายไว้สืบสกุลอีกทั้งกล้วยเป็นพืชที่แตกหน่อแพร่ขยายพันธุ์ได้ง่าย ทนทาน ตายยาก ก็สื่อความหมายถึงการแพร่ขยายของวงศ์ตระกูลได้ดีนั่นเอง
  • แอปเปิ้ลแดง : เริ่มจาก แอปเปิ้ลแดง (ขอให้เน้นสีแดง อย่าใช้สีเขียว) เป็นผลไม้ยอดนิยมอีกอย่างที่นิยมซื้อมาเป็นของไหว้ นอกจากสีแดงที่เป็นสีแห่งความมงคลของชาวจีนแล้ว ยังมีความเชื่อกันว่า จะช่วยปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ออกไป และส่งผลให้ร่างกายมีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง
  • ลิ้นจี่ : ในสมัยก่อนพี่น้องชาวจีนถือว่า ลิ ้นจี่ เป็นผลไม้ชั้นสูง หาทานยาก ต้องเป็นคนมีฐานะหรือเป็นขุนนางถึงจะมีโอกาสได้กิน เป็นผลไม้ที่มักใช้ในงานมงคลต่างๆ ของขุนนางชั้นสูงตั้งแต่โบราณ เนื่องจากเปลือกสีแดงของลิ้นจี่มีความหมายดีเป็นสีแห่งความเป็นสิริมงคล ” เฮง เฮง เฮง “
สาลี่สีทอง
สาลี่สีทอง
  • สาลี่ทอง : อีกหนึ่งอย่างที่ควรมีบนโต๊ะไหว้ คือ สาลี่ทอง ด้วยความที่สาลี่เป็นผลไม้ธาตุเย็น ทานแล้วสดชื่น ดับร้อน แก้ร้อนในได้ดี ทั ้งยังมีความเชื่อกันว่า จะช่วยทาใครอบครัวมีโชคลาภ ประสบแต่เรื่องดีๆ มีเงินทองไหลมาเทมาเหมือนสีทองของสาลี่
  • ทับทิม : ความหมายมงคลของทับทิม คือ เชื่อกันว่าจะทำให้ครอบครัวอบอุ่น ไม่มีขัดแย้งบาดหมางกัน ช่วยเหลือจุนเจือกันอย่างดี อีกทั้งสีแดงของทับทิมยังเป็นสีแห่งความเฮงโชคดี ร่ารวย คนจีนนิยมผ่าทับทิม 1 ลูก แล้วแบ่งให้ครบทุกคนในบ้าน เป็นกุศโลบายในการแบ่งปันเอื่อเฟื้อเผื่อแผ่ในหมู่ญาติพี่น้องอีกด้วย

ผลไม่เป็นมงคล

  • ละมุด เชื่อกันว่า ทาอะไรแล้ว มักไม่โดดเด่น ปิดๆ ซ่อนๆ
  • มังคุด เชื่อกันว่า ทาอะไรแล้วไม่ได้ดีเท่าที่ควร ไปไม่ถึงที่สุด มันกุด ๆ ด้วน ๆ ไม่โดดเด่น
  • พุทรา เชื่อกันว่า ทาอะไรแล้วดีในช่วงแรกๆ ช่วงหลังๆ ซาซา
  • มะเฟือง เชื่อกันว่า ทาอะไรแล้ว มักฝืดเคือง ไม่อะไรก็อะไร สักอย่าง
  • มะไฟ เชื่อกันว่าทาอะไรแล้วมักต้อง เร่งๆ รีบๆ เหมือนไฟลน ไม่ได้คุณภาพ
  • น้อยหน่า เชื่อกันว่า ทาอะไรแล้ว มักมีปัญหา อุปสรรค จุกๆจิกๆ อยู่เสมอๆ ทาแล้วได้ผลเพียงน้อย
  • น้อยโหน่ง เชื่อกันว่า ทาอะไรแล้ว ได้ผลสมบรูณ์เพียงน้อยนิด มีอุปสรรคปัญหา ไม่สมบรูณ์แบบ
  • มะตูม เชื่อกันว่า ทาอะไรแล้วไม่เจริญก้าวหน้า เช่นเดียวกับชื่อที่ตูมอยู่ตลอด ไม่ก้าวหน้า ไปไม่ไกล
  • มะขวิด เชื่อกันว่า ทาอะไรแล้วมักจะเจอปัญหา วัสดุอุปกรณ์ หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่ครบ
  • ลูกจาก เชื่อกันว่า ทาอะไรแล้ว มักจะไม่ยั่งยืน
  • ลูกพลับ เชื่อกันว่า ทาอะไรแล้ว ผลงานต้องโดนเก็บใส่ลิ ้นชัก ไม่ได้แสดงผลงาน ไม่ก้าวหน้า
  • ลูกท้อ เชื่อกันว่า ทาอะไรแล้ว ท้อแท้ เบื่อหน่าย ไม่มีกาลังใจ
  • ระกา เชื่อกันว่า ทาอะไรแล้ว มักจะไม่ประสบความสาเร็จ
  • กระท้อน เชื่อกันว่า ทาอะไรแล้ว สิ่งที่ดีๆ ที่ต้องการเผยแพร่ออกไป กลับสะท้อนมายังจุดเดิม
  • ลางสาด เชื่อกันว่า เป็นผลไม้ที่มียาง ทาอะไรแล้วมักจะมีเรื่อง ยุ่งยากวุ่นวาย

ความหมายของดอกไม้ต่างๆ ตามโบราณท่านมีความเชื่อว่า ดอกไม้แต่ละอย่างนั ้น ยังมีความหมายในตัวของมันเอง ท่านจึงนาดอกไม้แต่ละชนิด มาถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อที่ว่าผู้ไดนาดอกไม้อะไรมาถวาย การดำรงชีวิตของผู้นั้น จะได้รับผลตามความหมายของดอกไม้ ที่นามาถวายให้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นๆ ดอกไม้แต่ละชนิดมีความหมายดังนี้

  • ดอกมะลิหอม หมายถึง ความร่มเย็นเป็นสุข
  • ดอกพุด หมายถึง พบแต่สิ่งที่ดีๆ สิ่งที่บริสุทธิ์
  • เขี้ยวกระแต หมายถึง มองเห็นแต่สิ่งที่ดี
  • ดอกบัวหลวง หมายถึง ความสุข, ความสาเร็จ
  • กุหลาบแดง หมายถึง ความรักที่สดชื่น
  • กล้วยไม้ หมายถึง ทาอะไรราบรื่น
  • ไผ่กวนอิม หมายถึง เป็นมิ่งขวัญแก่ตนเอง
  • ดาวเรือง หมายถึง พบแต่ความรุ่งเรื่อง
  • ใบมะตูม หมายถึง มีชื่อเสียง
  • ดอกชบา หมายถึง พบความสาเร็จ
  • หญ้าแพรก หมายถึง มีความฉลาด
  • ดอกลาโพง หมายถึง มีความโด่งดังทั่วฟ้ า
  • บานไม่รู้โรย หมายถึง รักไม่รู้โรย

ที่มา :department.utcc.ac.th/studentaffairs/images/news/KM/Worship_Manual_KM_2561.pdf