ปก การบริหารจัดการเวลา

9 การบริหาร จัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพทำได้อย่างเจ๋ง?

Click to rate this post!
[Total: 139 Average: 5]

เทคนิคการบริหารเวลา เพื่อความสำเร็จ

การบริหารเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในชีวิตและงานที่ทำได้มากขึ้น ดังนั้น นี่คือเทคนิคบางอย่างที่จะช่วยให้คุณบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

9 เทคนิคบริหารเวลา

  1. วางแผน การวางแผนเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณเข้าใจว่าต้องทำอะไร ตอนไหน และใช้เวลากี่ชั่วโมง ดังนั้นคุณจะต้องวางแผนเพื่อให้เวลาของคุณไม่เสียหายไปโดยเปล่าประโยชน์

  2. จัดตารางเวลา การจัดตารางเวลาช่วยให้คุณมีความชัดเจนว่าต้องทำอะไรกับเวลาที่มีอยู่ ดังนั้นคุณจะต้องกำหนดเวลาสำหรับงานต่างๆ และปฏิบัติตามตารางเวลาที่กำหนดไว้

  3. กำหนดลำดับความสำคัญ การกำหนดลำดับความสำคัญช่วยให้คุณเรียงลำดับงานตามความสำคัญของมัน ดังนั้นคุณจะต้องทำงานที่สำคัญก่อน และปรับตารางเวลาของคุณให้เหมาะสมตามลำดับความสำคัญ

  4. ใช้เทคโนโลยีช่วย คุณสามารถใช้เทคโนโลยีในการบริหารเวลาได้ เช่น การใช้แอปพลิเคชันเพื่อจัดตารางเวลา การตั้งเวลาเตือน หรือการใช้โปรแกรมที่ช่วยให้คุณประหยัดเวลาใน

  1. ใช้เทคนิค time blocking Time blocking คือการแบ่งเวลาของคุณเป็นบล็อกเวลาสำหรับงานต่างๆ โดยที่แต่ละบล็อกมีเวลาคงที่เท่ากัน เช่น 1 ชั่วโมงต่อบล็อก โดยที่คุณจะตั้งตารางเวลาของคุณให้เหมาะสมกับลำดับความสำคัญของงาน และปฏิบัติตามตารางเวลาของคุณ

  2. โฟกัสกับงานที่ทำ โฟกัสที่งานที่คุณกำลังทำในขณะนั้น และไม่สลับสลายกับงานอื่นๆ ที่ยังไม่เสร็จสิ้น การโฟกัสที่งานที่ทำจะช่วยให้คุณทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

  3. ลดการสลับสลาย การสลับสลายเป็นสิ่งที่ช่วยลดประสิทธิภาพของการทำงาน ดังนั้นคุณควรลดการสลับสลายโดยการทำงานในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและไม่มีสิ่งที่ทำให้คุณสลับสลาย

  4. พักผ่อนเพียงพอ การพักผ่อนเพียงพอช่วยให้คุณมีสมรรถภาพในการทำงานมากขึ้น ดังนั้นคุณควรพักผ่อนให้เพียงพอและมีการนอนหลับที่เพียงพอ

  5. รับมือกับการขัดขวาง มีสิ่งหลายอย่างที่อาจขัดขวางการบริหารเวลาของคุณ เช่น การสะดุ้งดึง การอยู่ร่วมกับผู้อื่นที่ไม่เคยบริหารเวลาของพวกเขาเป็น

การบริหารเวลาในชีวิต ประ จํา วัน

การบริหารเวลาในชีวิตประจำวันเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณมีชีวิตที่มีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จในการทำงาน นี่คือเทคนิคบางอย่างที่จะช่วยให้คุณบริหารเวลาในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. วางแผนกิจกรรมของคุณ วางแผนกิจกรรมของคุณในช่วงเช้า หลังเที่ยงคืนหรือวันก่อน เพื่อให้คุณเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่จะเข้าสู่วันใหม่ และประหยัดเวลาในการเตรียมตัวในช่วงเช้า

  2. ใช้เทคโนโลยีช่วย การใช้เทคโนโลยีช่วยในการบริหารเวลาของคุณ โดยใช้แอปพลิเคชันเพื่อจัดการปฏิทิน การตั้งเวลาเตือน หรือการใช้โปรแกรมที่ช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการทำงาน เป็นต้น

  3. ระบุความสำคัญ ระบุความสำคัญของกิจกรรมแต่ละอย่าง เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจว่าต้องทำอะไรก่อน และแบ่งส่วนเวลาให้ตรงกับความสำคัญนั้นๆ

  4. ใช้เทคนิค time blocking ใช้เทคนิค time blocking ในการแบ่งเวลาของคุณเป็นบล็อกเวลาสำหรับงานต่างๆ เพื่อให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประหยัดเวลาในการสลับสลาย

  1. สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการทำงาน เช่น มีพื้นที่ที่เงียบสงบและไม่มีสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อการทำงาน เพื่อช่วยให้คุณทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

  2. ใช้เทคนิคการเข้าใจและการติดต่อ ใช้เทคนิคการเข้าใจและการติดต่อกับผู้อื่น เช่น การสื่อสารโดยตรงกับผู้อื่นเมื่อมีการขัดขวางหรือการเลื่อนเวลา และการใช้ช่องทางการสื่อสารแบบออนไลน์เพื่อประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

  3. ลดการสลับสลาย การสลับสลายเป็นสิ่งที่ช่วยลดประสิทธิภาพของการทำงาน ดังนั้นคุณควรลดการสลับสลายโดยการทำงานในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและไม่มีสิ่งที่ทำให้คุณสลับสลาย

  4. ออกกำลังกายและฝึกสมาธิ การออกกำลังกายและฝึกสมาธิช่วยลดความเครียดและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคุณ การทำกิจกรรมที่มีอยู่ในชีวิตประจำวันเช่น เดินขึ้นลงบันได เดินหรือวิ่งเล่นก็สามารถช่วยให้คุณออกกำลังกายได้

  1. พักผ่อนเพียงพอ การพักผ่อนเพียงพอช่วยให้คุณมีสมรรถภาพในการทำงานมากขึ้น ดังนั้นคุณควรพักผ่อนให้เพียงพอและมีการนอนหลับที่เพียงพอ นอนหลับให้เพียงพอช่วยให้ร่างกายและจิตใจของคุณมีพลังและสมบูรณ์มากขึ้น

  2. รับมือกับความไม่แน่นอน ชีวิตประจำวันอาจมีสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้นเสมอ การรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนให้เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารเวลาของคุณ เช่น การเตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อช่วยให้คุณสามารถรับมือกับสถานการณ์นั้นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  3. จัดการความเครียด การจัดการความเครียดจะช่วยให้คุณมีสมรรถภาพในการทำงานมากขึ้น การใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การหาเวลาพักผ่อน การทำโยคะ หรือการเรียนรู้เทคนิคการจัดการความเครียดช่วยให้คุณรู้จักจัดการความเครียดให้มีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จในการทำงาน

การบริหารจัดการเวลา 01

ทฤษฎีการบริหารเวลา

ทฤษฎีการบริหารเวลาเป็นแนวคิดหรือแนวปฏิบัติที่ช่วยให้เรามีการใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถบริหารเวลาในการทำงานและชีวิตส่วนตัวได้เหมาะสม เพื่อให้มีคุณค่าและผลผลิตที่สูงสุด

ทฤษฎีการบริหารเวลามีหลักการเบื้องต้นดังนี้

  1. การกำหนดเป้าหมาย (Goal Setting) – การกำหนดเป้าหมายเป็นขั้นตอนสำคัญในการบริหารเวลา เพราะเป้าหมายชัดเจนจะช่วยให้เรารู้ว่าต้องทำอะไรในแต่ละวัน เพื่อให้เป้าหมายเป็นจริง

  2. การวางแผน (Planning) – การวางแผนเป็นขั้นตอนที่จะช่วยให้เราทราบว่าต้องทำอะไร เมื่อทำอะไร และเวลาที่ต้องใช้ในแต่ละกิจกรรม เพื่อช่วยให้เรารู้ว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในแต่ละกิจกรรม และเวลาที่ต้องใช้ทั้งหมดในวัน

  3. การจัดการกิจกรรม (Activity Management) – การจัดการกิจกรรมเป็นการใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อจัดการกับเวลาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้เราสามารถบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  4. การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม (Environment Setting) – การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการทำงาน เช่น การกำหนดพื้นที่ที่เงียบสงบ ไม่มีสิ่งรบกวน

  1. การใช้เทคโนโลยี (Technology) – การใช้เทคโนโลยีเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เราบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเครื่องมือออนไลน์หลายตัวที่ช่วยให้เราสามารถติดตามเวลา แจ้งเตือนเวลาเริ่มต้นของกิจกรรม หรือการจัดการปฏิทิน เป็นต้น

  2. การจัดการความเครียด (Stress Management) – การจัดการความเครียดเป็นสิ่งที่สำคัญในการบริหารเวลา เพราะความเครียดสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การพักผ่อน การออกกำลังกาย การฝึกสมาธิ เป็นต้นจะช่วยลดความเครียด

  3. การเรียนรู้การบริหารเวลา (Time Management Education) – การเรียนรู้เทคนิคการบริหารเวลา อาจเป็นการอ่านหนังสือเกี่ยวกับการบริหารเวลา หรือการเข้าร่วมสัมมนาหรือโค้ชที่สอนเรื่องการบริหารเวลา เพื่อเรียนรู้เทคนิคการใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ

  4. การบันทึกเวลา (Time Logging) – การบันทึกเวลาเป็นการวิเคราะห์เวลาที่ใช้ในแต่ละกิจกรรม เพื่อช่วยให้เราเห็นว่าเราใช้เวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ และจะช่วยให้เรารู้

  1. การประเมินผล (Evaluation) – การประเมินผลเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการบริหารเวลา เพราะเป็นการวิเคราะห์ว่าเราทำได้ดีหรือไม่ และสามารถปรับปรุงการบริหารเวลาในอนาคตได้อย่างไร

การบริหารจัดการเวลา 03

การวางแผนการบริหารเวลา

การวางแผนการบริหารเวลาเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้เรามีเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถบริหารเวลาในการทำงานและชีวิตส่วนตัวได้เหมาะสม เพื่อให้มีคุณค่าและผลผลิตที่สูงสุด ดังนั้น การวางแผนการบริหารเวลาควรประกอบด้วยขั้นตอนดังนี้

  1. กำหนดเป้าหมาย กำหนดเป้าหมายการใช้เวลา ซึ่งจะช่วยให้เรารู้ว่าต้องใช้เวลาในการทำงานแต่ละวันและสามารถปรับแผนการใช้เวลาได้เหมาะสม

  2. วางแผนตารางเวลา จัดทำตารางเวลาสำหรับการทำงานและกิจกรรมส่วนตัว ซึ่งจะช่วยให้เรารู้ว่าต้องทำอะไรในแต่ละวันและเวลาที่ต้องใช้

  3. สร้างรายการสิ่งที่ต้องทำ สร้างรายการกิจกรรมและงานที่ต้องทำในแต่ละวันและกำหนดเวลาที่เหมาะสมสำหรับการทำงานแต่ละกิจกรรม

  4. ควบคุมการขยายเวลา ระบุเวลาที่ต้องใช้ในการทำงานแต่ละกิจกรรมและหยุดหรือพักผ่อนที่สม่ำเสมอ ไม่ให้เวลาที่ใช้ในกิจกรรมใดๆ เกินกว่าที่ควรใช้

  5. จัดการความสำคัญ กำหนดลำดับความสำคัญของงานแต่ละอย่างและจัดลำดับการทำงานตามความสำคัญเพื่อให้เราสามารถใช้

  1. การปรับปรุงแผนการใช้เวลา การปรับแผนการใช้เวลาเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน คุณควรเปลี่ยนแปลงแผนการใช้เวลาของคุณให้เหมาะสมตามที่เป็นไปได้ โดยไม่ลืมการสร้างเวลาสำหรับการพักผ่อนและการพบปะผู้อื่น

  2. การใช้เครื่องมือสนับสนุน คุณสามารถใช้เครื่องมือสนับสนุนต่างๆ เพื่อช่วยในการวางแผนการบริหารเวลา เช่น การใช้ปฏิทินออนไลน์ การใช้แอปพลิเคชันสำหรับบันทึกเวลา หรือเครื่องมือการจัดการโปรแกรมการทำงาน

  3. การประเมินผล หลังจากที่คุณได้วางแผนการบริหารเวลาแล้ว คุณควรทำการประเมินผลเพื่อดูว่าการบริหารเวลาของคุณสามารถให้ผลลัพธ์ตามเป้าหมายหรือไม่ และมีวิธีการปรับปรุงแผนการใช้เวลาของคุณในกรณีที่มีสิ่งที่ต้องการเปลี่ยนแปลง

การวางแผนการบริหารเวลาเป็นการทำให้เรามีเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้เราสามารถบริหารเวลาในการทำงานและชีวิตส่วนตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ การวางแผนการบริหารเวลาไม่ใช่เพียงแค่การวางแผนแต่อย่างหนึ่ง แต่เป็นการเตรียมตัวก่อนการดำเนินชีวิต

ตารางการบริหารเวลา

  1. กำหนดเป้าหมาย
  2. แบ่งเวลาตามลำดับความสำคัญ
  3. จัดสรรเวลาสำหรับกิจกรรมแต่ละอย่าง
  4. ระบุเวลาสำหรับพักผ่อนและพบปะผู้อื่น
  5. ปรับปรุงตารางเวลาเมื่อจำเป็น
  6. ใช้เครื่องมือสนับสนุน
  7. ประเมินผล

การบริหารจัดการเวลา 02

กลยุทธ์การบริหารเวลา

การบริหารเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เรามีการจัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถบริหารชีวิตส่วนตัวและการทำงานได้เป็นอย่างดี ดังนั้น การพัฒนากลยุทธ์การบริหารเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีกลยุทธ์การบริหารเวลาที่ดีที่สุดดังนี้

  1. วางแผนการใช้เวลา วางแผนการใช้เวลาของคุณในระยะยาวและระยะสั้น โดยจะต้องกำหนดเป้าหมายและแบ่งเวลาตามความสำคัญของงานและกิจกรรมต่างๆ

  2. ใช้เทคโนโลยี ใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อช่วยในการบริหารเวลา เช่นใช้ปฏิทินออนไลน์ แอปพลิเคชันการบริหารเวลา หรือเครื่องมือการจัดการโปรแกรมการทำงาน เพื่อช่วยให้เรามีการบริหารเวลาที่ดีและมีประสิทธิภาพ

  3. ลดเวลาในการเล่นเกมและดูวิดีโอออนไลน์ ลดเวลาในการเล่นเกมและดูวิดีโอออนไลน์เพื่อลดการสูญเสียเวลาที่ไม่จำเป็น

  4. ใช้เทคนิค Pomodoro ใช้เทคนิค Pomodoro เพื่อช่วยในการจัดการเวลา โดยการแบ่งเวลาการทำงานเป็นช่วงเวลาย่อยๆ โดยใช้เวลา 25 นาทีในการทำงาน

  1. กำหนดเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดของงาน กำหนดเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดของงานเพื่อช่วยให้เรามีการบริหารเวลาที่มีประสิทธิภาพ และลดการสูญเสียเวลา

  2. ตั้งเป้าหมาย ตั้งเป้าหมายในการบริหารเวลาเพื่อช่วยให้เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนในการบริหารเวลาและมีแรงจูงใจในการปฏิบัติตามเป้าหมาย

  3. พักผ่อน จัดเวลาให้พักผ่อนเพื่อสะสมพลังงานและอยู่ในสภาวะที่สมดุลได้ โดยควรจัดตารางเวลาให้มีการพักผ่อนเพียงพอ

  4. แบ่งเวลาสำหรับครอบครัวและเพื่อน แบ่งเวลาสำหรับครอบครัวและเพื่อนเพื่อช่วยให้เราสามารถบริหารเวลาของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพและสมดุล

  5. ประเมินผล ประเมินผลเพื่อดูว่าการบริหารเวลาของเราสามารถให้ผลลัพธ์ตามเป้าหมายหรือไม่ และมีวิธีการปรับปรุงกลยุทธ์การบริหารเวลาของเราในกรณีที่มีสิ่งที่ต้องการเปลี่ยนแปลง

การบริหารเวลาด้วยกลยุทธ์การบริหารเวลานี้จะช่วยให้เราสามารถจัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพและสมดุล อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การบริหารเวลาไม่ใช้วิธีการเดิน

อ่านบทความทั้งหมด >>> pangpond.com