- เช็คเงินสงเคราะห์บุตร
- เงินสงเคราะห์บุตร
- ผู้มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์บุตร ดังนี้
- ประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตร ได้แก่
- หลักเกณฑ์และเงื่อนไข
- การหมดสิทธิรับ
- เอกสารที่ใช้ยื่น
- หลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตร
- สถานที่ยื่นเรื่องขอรับ
- ขั้นตอนการขอรับประโยชน์ทดแทน
- เช็คเงินสงเคราะห์บุตรประกันสังคม 2564
- คำถามทั่วไป
เช็คเงินสงเคราะห์บุตร
มาตรา 33 คือ ให้ลูกจ้างซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่าสิบห้าปีบริบูรณ์และไม่เกินหกสิบปีบริบูรณ์เป็นผู้ประกันตนลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ประกันตนอยู่แล้วตามวรรคหนึ่ง เมื่อมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์และยังเป็นลูกจ้างของนายจ้างอยู่ภายใต้บังคับแห่งพระราชบัญญัตินี้ ให้ถือว่าลูกจ้างนั้นเป็นผู้ประกันตนต่อไป เป็นกฎหมายตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533
ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จะได้รับความคุ้มครองใน 7 กรณี จากกองทุนประกันสังคม เมื่อจ่ายเงินสมทบครบ 3 เตือนภายในระยะเวลา 15 เตือนก่อนเตือนที่รับบริการทางการแพทย์ และเลือกโรงพยาบาลแล้วผู้ประกันตนจะได้รับ “บัตรรับรองสิทธิการรักษา” ซึ่งบัตรจะมีชื่อของผู้ประกันตน และชื่อสถานพยาบาลที่เลือกไว้แต่ไม่มีภาพถ่ายติดจึงต้องใช้ควบคู่กับบัตรประจำตัวประชาชนการเข้ารับการรักษาไม่ว่าจะเป็น
- ผู้ป่วยนอก ( คือ ป่วยแบบไม่พบแพทย์ฯ ตรวจรักษาจัดยาให้แล้วกับบ้าน )
- ผู้ป่วยใน ที่ต้องนอนรักษา ค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นทั้งหมดในโรงพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิฯ ผู้ประกันตนไม่ต้องจ่ายค่ารักษา (ยกเว้นขออยู่ห้องพิเศษหรือขอแพทย์พิเศษเอง )
สถานพยาบาลที่ผู้ประกันตนเลือกถือเป็น สถานพยาบาลหลัก (MAINCONTRACTOR) ซึ่งสถานพยาบาลหลักนั้นอาจมี สถานพยาบาลเครือข่าย (SUBCONTRACTOR) เช่นโรงพยาบาลเล็ก ๆ หรือคลินิกเพื่ออำนวยความสะตวกให้แก่ผู้ประกันตน โดยผู้ประกันตนสามารถเข้าไปรักษาพยาบาลได้โดยไม่สียค่าใช้จ่าย
เงินสงเคราะห์บุตร
เงินสงเคราะห์บุตร คือ สิทธิประโยชน์จากกองทุนหนึ่งในสำนักงานประกันสังคมเพื่อเป็นทุนใช้จ่ายให้ผู้ประกันตนซึ่งจะได้รับประโยชน์ทดแทนจากเงินที่ให้ผู้ประกันตนส่งให้ในรูปแบบเงินสมทบ ไม่ว่าจะส่งจากนายจ้าง ลูกจ้าง หรือรัฐบาลตามกฎหมาย
ผู้มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์บุตร ดังนี้
- ผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 หรือ มาตรา 39
- ผู้ประกันตนที่อยู่ในระบบประกันสังคมมาแล้ว ไม่น้องกว่า 36 เดือน และนำส่งเงินสมทบเงินประกันสังคมมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 12 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิที่จะได้รับประโยชน์ทดแทนสงเคราะห์บุตร ตามมาตรา 74 พรบ.ประกันสังคม พ.ศ.2533
- สามี หรือ ภริยาของผู้ประกันตนตามกฎหมาย หรือ บุคคลที่อยู่ร่วมกันฉันสามีภริยากับผู้ประกันตนโดยเปิดเผย กรณี บุคคลคนใดบุคคลหนึ่ง ทุพพลภาพหรือถึงแก่ความตาย
- ผู้อุปการะบุตรแทนผู้ประกันตน กรณี ผู้ประกันตนถึงแก่ความตาย หรือถูกถอนอำนาจปกครอง
- บุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้ประกันตน ตั้งแต่อายุแรกเกิดจนถึงอายุ 6ปี บริบูรณ์ ยกเว้น บุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งได้ยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น
หมายเหตุ : ในกรณีที่บิดาและมารดาเป็นผู้ระกันตน ให้บิดาหรือมารดาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้สิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตรเพียงฝ่ายเดียว เว้นแต่เมื่อมีการจดทะเบียนหย่าหรือแยกกันอยู่และบุตรอยู่ในความอุปการะของผู้ประกันตนฝ่ายใดให้ผู้ประกันตนฝ่ายนั้น เป็นผู้สิทธิได้รับ
ประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตร ได้แก่
- ค่าสงเคราะห์ความเป็นอยู่ของบุตร
- ค่าเล่าเรียนบุตร
- ค่ารักษาพยาบาลบุตร
- ค่าสงเคราะห์อื่นที่จำเป็น
หลักเกณฑ์และเงื่อนไข
- ต้องเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือ มาตรา 39
- จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน สิทธิที่ท่านจะได้รับเงินสงเคราะห์ บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 800 บาทต่อบุตรหนึ่งคน
- ต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ยกเว้น บุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น (ไม่ว่าจะเป็นบุตรที่เกิดก่อนหรือหลังการเป็นผู้ระกันตน )
- อายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จำนวนคราวละไม่เกิน 3 คน
หมายเหตุ : ผู้ประกันตนเป็นผู้ทุพพลภาพหรือถึงแก่ความตาย ในขณะที่บุตรมีอายุแรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนต่อจนอายุ 6 ปีบริบูรณ์
การหมดสิทธิรับ
- เมื่อบุตรมีอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์
- บุตรเสียชีวิต
- ยกบุตรให้เป็นบุตรบุญธรรมของคนอื่น
- ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
เอกสารที่ใช้ยื่น
หลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตร
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม (สปส. 2-01)
- กรณีผู้ประกันตนเคยยื่นใช้สิทธิแล้วและประสงค์จะใช้สิทธิสำหรับบุตรคนเดิม ให้ใช้หนังสือขอใช้สิทธิบุตรคนเดิมกรณีกลับเข้าเป็นผู้ประกันตน จำนวน 1 ฉบับ
- กรณีผู้ประกันตนหญิงใช้สิทธิ
- สำเนาสูติบัตรบุตร (กรณีคลอดบุตรแฝดให้แนบสำเนาสูติบัตรของคู่แฝดด้วย) จำนวน 1 ชุด
- กรณีผู้ประกันตนชายใช้สิทธิ
- สำเนาทะเบียนสมรส หรือสำเนาทะเบียนหย่าพร้อมบันทึกแนบท้ายของผู้ประกันตนหรือสำเนาทะเบียนรับรองบุตร หรือสำเนาคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 1 ชุด
- สำเนาสูติบัตรบุตร (กรณีคลอดบุตรแฝดให้แนบสำเนาสูติบัตรของคู่แฝดด้วยจำนวน 1 ชุด)
- กรณีเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุลให้แนบสำเนาเอกสารใบเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุลด้วย จำนวน 1 ชุด
- กรณีผู้ประกันตนต่างชาติขอรับประโยชน์ทดแทนให้ใช้สำเนาบัตรประกันสังคมและสำเนาหนังสือเดือนทาง (passport) หรือสำเนาหนังสือเดินทางชั่วคราวหรือเอกสารรับรองบุคคลที่ทางราชการออกให้ จำนวน 1ชุด
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรกที่มีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ยื่นคำขอ จำนวน 1 ฉบับ ผ่านทางบัญชีธนาคารของผู้ประกันตน ดังนี้
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด
- ธนาคารทหารไทย จำกัด
- ธนาคารธนชาต จำกัด
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
- ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด
- เอกสารประกอบการยื่นคำขอฯ ที่เป็นสำเนาให้รับรองความถูกต้องของสำเนาทุกฉบับ และแสดงเอกสารที่เป็นต้นฉบับเมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบ กรณีเอกสารหลักฐานสำคัญต่อการพิจารณาเป็นภาษาต่างประเทศให้จัดทำคำแปลเป็นภาษาไทยและรับรองความถูกต้องให้ครบถ้วน
สถานที่ยื่นเรื่องขอรับ
ยื่นได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขา ที่สะดวก (ยกเว้นสำนักงานใหญ่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข)
ขั้นตอนการขอรับประโยชน์ทดแทน
– ประกันตนต้องกรอกแบบ สปส.2-01 พร้อมลงลายมือชื่อและนำมายื่นที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขา หรือยื่นขอรับทางไปรษณีย์โดยมีหลักฐานครบถ้วน (กรณีผู้ประกันตนยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตรสำหรับบุตร 3 คน ในคราวเดียวกันสามารถใช้แบบคำขอฯ ชุดเดียวกันได้)
– เจ้าหน้าที่ตรวจหลักฐานและพิจารณาอนุมัติ
– สำนักงานประกันสังคมมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณา
– พิจารณาสั่งจ่าย จ่ายเป็นรายเดือนโดยโอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์ของผู้ขอรับประโยชน์ทดแทน
เช็คเงินสงเคราะห์บุตรประกันสังคม 2564
เช็คเงินสงเคราะห์บุตรประกันสังคมผ่านแอปพลิเคชั่น
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น SSO Connect หรือเข้าเว็บไซต์ sso.go.th
- จากนั้นเข้าสู่ระบบ หากยังไม่ได้เป็นสมาชิกสามารถสมัครผ่านระบบก่อน (สมัครสมาชิก)
- ผู้ที่เข้าผ่านแอปฯ กดเลือกเมนู “การเบิกสิทธิประโยชน์” ส่วนผู้ที่เข้าผ่านเว็บไซต์กดเลือกเมนู “การใช้สิทธิประโยชน์ทดแทน”
- ระบบจะแสดงรายการจ่ายเงินสงเคราะห์ บุตร เป็นรายเดือนไว้ให้ตามสิทธิ์ของผู้ประกันตน
คำถามทั่วไป
แตกต่างกัน เงินสงเคราะห์ บุตร คือสิทธิประโยชน์จาก พรบ.ประกันสังคม ที่เก็บจากกองทุนประกันสังคมและที่ประชาชนมีสิทธิได้รับเงินตามที่ตนส่งเงินเข้ากองทุน ส่วนเงินอุดหนุนบุตรนั้นมีไว้ช่วยเหลือครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ ไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี ซึ่งเป็นโครงการของรัฐที่มีไว้ช่วยเหลือประชาชน
หมายเหตุ : เงินสงเคราะห์ บุตรนี้พ่อแม่บุญธรรมยังมีสิทธิได้รับ ซึ่งปัจจุบันหากผู้ที่มีประกันสังคมและมีเงื่อนไขตรงตามคุณสมบัติของโครงการเงินอุดหนุนบุตรก็สามารถของรับสิทธิ์ได้เช่นกัน
ปัจจุบันปี 2564 จะได้รับอยู่ที่ เดือนละ 800 บาท เนื่องจากผลกระทบโควิด-19 เดิมเงินสงเคราะห์ บุตรจะอยู่ที่ 400 บาท/เดือนและ ปี2561 เคยปรับขึ้นแล้วเป็นเดือนละ 600 บาท ดังนั้นสำหรับผู้ที่เคยได้รับในช่วงปี 2561 นั้น จะมีการจ่ายเงินย้อนหลังเพิ่มให้เดือนละ 200 บาท ทั้งนี้ รายเก่าและรายใหม่ จะได้รับอยู่ที่ 800 บาท/เดือน โดยมีผลบังคับใช้ 1 มกราคม 2564
หมายเหตุ : ทั้งนี้จะต้องเป็นผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบอย่างต่อเนื่องจึงจะได้รับสิทธิประโยชน์
สามารถใช้สิทธิฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น
ใช้สิทธิเบิกได้คราวละไม่เกิน 3 คน
ได้แต่ต้องเข้าเงื่อนไขและสามารถใช้สิทธิเบิกเงินสงเคราะห์ บุตรจากประกันสังคมได้เคยเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 นำส่งเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ใน 36 เดือน มาก่อนหน้านี้แล้ว