ประวัติวอลเลย์บอล

7 กฎ ประวัติวอลเลย์บอลผู้คิดค้นกีฬาที่ไม่มีใครรู้?

Click to rate this post!
[Total: 218 Average: 5]

ประวัติวอลเลย์บอล

หากพูดถึงกีฬายอดนิยมทั้งในไทยและต่างประเทศ คงไม่พูดถึงกีฬาวอลเลย์บอลไม่ได้ กีฬาชนิดนั้นมีการเล่นแบบทีม ดังนั้นความสามัคคีถือเป็นหลักสำคัญ เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักกีฬาชนิดนี้ แต่น้อยคนนักที่จะทราบถึงประวัติความเป็นมา

วอลเลย์บอลประวัติ

 

วันนี้เราจะมาพูดถึง ประวัติของวอลเลย์บอล (Volleyball) เพราะเป็นอีกหนึ่งกีฬาที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และถือเป็นกีฬาระดับชาติที่หลายคนเฝ้ารอที่จะชมการแข่งขัน จึงขอรวบรวมประวัติวอลเลย์บอลแบบย่อมาให้ทุกคนได้ทำความรู้จักถึงต้นกำเนิดของกีฬาชนิดนี้กัน

ประวัติของกีฬาวอลเลย์บอล ในประเทศไทย

 

ความแพร่หลายของกีฬาชนิดนี้ยังไม่มีหลักฐานใดระบุแน่ชัดถึงช่วงเวลาที่คนในประเทศไทยเริ่มรู้จักกีฬาวอลเลย์บอล แต่รู้เพียงว่าในช่วงแรกผู้ที่นิยมเล่นมักเป็นผู้คนชาวจีนและชาวญวนเป็นส่วนใหญ่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปีพุทธศักราช 2577 จนเกิดเป็นการแข่งขันในหมู่กลุ่มคนเล็กๆ อย่างชุมชน และค่อยๆ ใหญ่ขึ้นเป็นการแข่งขันระดับสโมสร ระดับภาคตามลำดับ

 

ประวัติของกีฬาวอลเลย์บอล ในต่างประเทศ เริ่มเล่นกันเมื่อไร

 

มีการระบุช่วงเวลาชัดเจนของการถือกำหนดกีฬาวอลเลย์บอลในต่างประเทศ นั่นก็คือช่วงปีพุทธศักราช 2438 หรือคริสต์ศักราช 1895  โดยนายวิลเลียม จี. มอร์แกน (William G. Morgan) ผู้อำนวยการฝ่ายพลศึกษาของสมาคม Y.M.C.A. (Young Men’s Christian Association) ประเทศสหรัฐอเมริกา วัตถุประสงค์คือต้องการให้มีกีฬาสำหรับไว้เล่นในที่ร่มในช่วงฤดูหนาว แทนการเล่นกีฬากลางแจ้ง เพราะในช่วงฤดูหนาวของประเทศสหรัฐอเมริกามีอากาศที่หนาวจัด ไม่สามารถเล่นกีฬากลางแจ้งได้ จึงนำกีฬาวอลเลย์บอลมาเล่นเพื่อออกกำลังกายในฤดูหนาวนั่นเอง

และข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงประวัติวอลเลย์บอลแบบย่อเท่านั้น หากต้องการทราบประวัติวอลเลย์บอลอย่างละเอียด สามารถติดตามเนื้อหาในลำดับต่อไป

ประวัติการเล่นวอลเลย์บอล

การเล่นวอลเลย์บอลมีมาตั้งแต่สมัยก่อนจนมาถึงปัจจุบัน กีฬาชนิดนี้ก็กลายเป็นกีฬาสากลระดับโลก ที่ไม่ว่าจะมีการจัดการแข่งขันกีฬาครั้งใหญ่ที่ใด จะต้องมีกีฬาวอลเลย์บอลอยู่ด้วย ซึ่งเป็นกีฬาที่เล่นเป็นทีม ในหนึ่งทีมมีผู้เล่นได้ไม่เกิน 12 คน แบ่งออกเป็น ผู้ฝึกสอน 1 คน ,ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน 1 คน ,เทรนเนอร์ 1 คน และแพทย์ 1 คน สำหรับผู้ลงเล่นในสนามจะสามารถลงได้ครั้งละ 6 คน โดยแบ่งเป็นด้านหน้าตาข่าย 3 คน และด้านหลังตาข่าย 3 คน

ประวัติวอลเลย์บอล
ประวัติวอลเลย์บอล

กฎกติ การเล่น วอลเลย์บอล มีวิธีเล่นดังต่อไปนี้

  1. ทีมที่เสิร์ฟเพื่อเปิดเกมส์ จะเป็นผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่งขวาหลัง จากนั้นผู้เล่นทุกตำแหน่งจะเริ่มขยับตำแหน่งวนไปตามเข็มนาฬิกา
  2. การเริ่มเสิร์ฟผู้เล่นจะต้องฟังสัญญาณจากนกหวีด หลังจากได้ยินเสียงนกหวีดต้องเริ่มเสิร์ฟภายในเวลา 5 วินาที
  3. ทีมที่ได้คะแนนจะเป็นทีมที่เสิร์ฟในครั้งต่อไป และเสิร์ฟจนกว่าจะเสียคะแนนให้ทีมฝ่ายตรงข้าม ถึงจะมีการสลับทีมเสิร์ฟ
  4. เมื่อทำการเสิร์ฟก็จะถึงเวลาการเล่นในเขตแดนของทีม จะสามารถเล่นบอลได้มากสุดแค่ 3 ครั้งเท่านั้น จากนั้นต้องส่งลูกต่อไปให้ฝ่ายของทีมตรงข้าม
  5. สามารถบล็อคลูกบอลจากฝ่ายทีมตรงข้ามที่ด้านหน้าตาข่ายได้ แต่มีกฎอยู่ว่าผู้เล่นห้ามล้ำเกินเข้าไปในเขตแดนของฝ่ายทีมตรงข้าม ไม่เช่นนั้นจะถือว่าฟาวล์ เป็นการเสียคะแนนทันที
  6. ผู้เล่นสามารถขอเวลานอกได้ 2 ครั้ง ต่อการเล่น 1 เซต และมีเวลาไม่เกินครั้งละ 30 วินาทีเท่านั้น
  7. หลังจบการแข่งขัน 1 เซต ทีมจะต้องเปลี่ยนฝั่งการเล่นทุกครั้ง

ข้อมูลวอลเลย์บอล

นอกจากการการเล่นกีฬาวอลเลย์บอลที่กล่าวไว้ข้างต้น กีฬาชนิดนี้ยังมีข้อมูลให้เราได้เรียนรู้อีกมาก อย่างกติกาวอลเลย์บอล ซึ่งประกอบไปด้วย สนามแข่งขัน ,ตาข่าย และลูกวอลเลย์บอล

ที่มาของวอลเลย์บอล

 

สนามแข่งขันวอลเลย์บอล

จำเป็นต้องเป็นพื้นไม้หรือพื้นปูนที่มีลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้าเรียบ กว้าง 9 เมตร ยาว 12 เมตร ความสูงจากพื้นประมาณ 7 เมตร และไม่ควรมีสิ่งใดกีดขวาง บริเวณสนามโดยรอบควรห่างประมาณ 3 เมตร เส้นรอบสนามทุกเส้นกว้าง 5 เซนติเมตร เส้นแบ่งเขตแดนต้องอยู่กลางสนาม และอยู่ใต้ตาข่าย หรือตรงกับเสาตาข่ายพอดี

ตาข่ายวอลเลย์บอล

ต้องสูงจากพื้น 2.43 เมตร กว้าง 1 เมตร ยาว 9.5-10 เมตร และความถี่ของตาข่ายกว้าง 10 เซนติเมตร หากเป็นทีมผู้หญิงตาข่ายควรสูง 2.24 เมตร

ที่มาของวอลเลย์บอล

จากประวัติโดยละเอียดของกีฬาวอลเลย์บอลเกิดขึ้นเมื่อปีคริสต์ศักราช 1895 โดยนายวิลเลียม จี. มอร์แกน และนายเจมส์ ไนท์สมิธ ผู้อำนวยการฝ่ายพลศึกษาของสมาคม Y.M.C.A. เมืองฮอลโยค รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศอเมริกา แต่หลายแหล่งข้อมูลมักกล่าวถึงนายวิลเลียม จี. มอร์แกนเป็นส่วนใหญ่ นับได้ว่าเป็นผู้คิดค้นกีฬาวอลเลย์บอล

นายวิลเลียม จี. มอร์แกนได้เกิดความคิดที่ว่าการเล่นเทนนิสเป็นกีฬากลางแจ้งที่สามารถเล่นได้ในฤดูร้อน แต่ถ้าหากเริ่มเข้าฤดูหนาว เขาจะเล่นกีฬาอะไร จึงได้นำลักษณะและวิธีการเล่นของเทนนิสมาดัดแปลงโดยใช้ตาข่ายเทนนิสที่อยู่ระหว่างเสาโรงยิมเนเซียม ที่สูงจากพื้นประมาณ 6 ฟุต 6 นิ้ว และใช้ยางในของลูกบาสเกตบอลสูบให้แน่นขึ้น จากนั้นก็ใช้แขนตีข้ามตาข่ายไปมา แต่ปัญหาอยู่ที่ยางในของลูกบาสเกตบอลมีความเบา ทำให้ไม่สามารถกำหนดทิศทางที่แน่นอนของลูกได้ จึงหันมาเปลี่ยนโดยใช้ลูกบาสเกตบอลแทน แต่กลับมีความหนักและแข็งเกินไป

ในที่สุดเขาเจอกับบริษัท Ant G. Spalding and Brother Company ที่สามารถผลิตลูกบอลที่หุ้มหนังและบุด้วยยางได้ จึงกำหนดให้มีเส้นรอบวง 25-27 นิ้ว และน้ำหนัก 8-12 ออนซ์ และคิดชื่อการเล่นกีฬานี้ว่า “มินโทเนตต์” (Mintonette)
และในปีคริสต์ศักราช 1896 นายวิลเลียม จี มอร์แกน ได้เล่นกีฬาชนิดนี้ต่อหน้าที่ประชุม โดยมีศาสตราจารย์ อัลเฟรด ที เฮลสเตด (Alfred T. Helstead) ได้เสนอให้มอร์แกนเปลี่ยนชื่อจาก “มินโทเนตต์” (Mintonette) มาเป็น “วอลเลย์บอล” (Volleyball) ในที่สุด
และในปีคริสต์ศักราช 1928 มีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงกติกาของการเล่นวอลเลย์บอล โดยดร.จอร์จ เจ ฟิเชอร์ (Dr. George J. Fisher) เพื่อจะนำกีฬาวอลเลย์บอลให้เป็นกีฬาระดับชาติ และเป็นผู้ที่ทำให้ผู้คนได้รู้จักกีฬาวอลเลย์บอลกันอย่างแพร่หลายมาจนถึงปัจจุบัน และในปีเดียวกันก็ได้มีการก่อตั้งสมาคมวอลเลย์บอลในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลชิงชนะเลิศแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา ครั้งที่ 1 ที่ Brooklyn Central Y.M.C.A. (USA National Volleyball Championships)

ลักษณะลูกวอลเลย์บอล

เป็นลูกบอลทรงกลมเส้นรอบวงประมาณ 65-67 เซนติเมตร น้ำหนักโดยประมาณ 260-280 กรัม ควรทำจากหนังสังเคราะห์ที่ยืดหยุ่นได้ดี โดยปกติแล้วควรมีลูกบอลสำรองสำหรับการแข่งขัน 3 ลูก เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาในการเก็บลูก หากลูกออกนอกสนาม

อ่านบทความทั้งหมด >>> pangpond.com