การใช้อินเทอร์เน็ต 15 อย่างปลอดภัย เหมาะสม !

การใช้อินเตอร์เน็ต
Click to rate this post!
[Total: 326 Average: 5]

การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณและป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายจากการโจรกรรมออนไลน์ นี่คือบางแนวทางเพื่อช่วยให้คุณใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย

  1. ติดตั้งและอัปเดตซอฟต์แวร์และแอนติไวรัส ติดตั้งโปรแกรมตรวจสอบไวรัสและซอฟต์แวร์แอนติไวรัสที่มีความปลอดภัยสูงบนอุปกรณ์ของคุณ และอัปเดตโปรแกรมเป็นประจำเพื่อรับข้อมูลการป้องกันล่าสุดจากผู้พัฒนา

  2. ใช้การเชื่อมต่อแบบปลอดภัย เมื่อเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ให้ใช้การเข้ารหัสแบบ WPA2 หรือ WPA3 เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตจากบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต

  3. ใช้การเข้ารหัสข้อมูล หากคุณส่งหรือรับข้อมูลที่สำคัญผ่านอินเทอร์เน็ต เช่น การทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ ให้ใช้การเชื่อมต่อที่เข้ารหัส (HTTPS) เพื่อปกป้องข้อมูลของคุณจากการถูกดักจับและโจรกรรม

  4. ใช้รหัสผ่านที่แข็งแรง สร้างรหัสผ่านที่มีความยากต่อการคาดเดา และหลีกเลี่ยงการใช้รหัสผ่านเดิมในหลายๆ บัญชี ควรใช้ความยาวของรหัสผ่านอย่างน้อย 12 ตัวอักษร รวมถึงตัวอักษรพิมพ์ใหญ่และเล็ก ตัวเลข และอักขระพิเศษ

  5. เปิดใช้งานการยืนยันสองขั้นตอน (Two-Factor Authentication) ใช้การยืนยันสองขั้นตอนเพิ่มเติม เช่น การใช้รหัสผ่านและรหัสยืนยันทาง SMS หรือแอปพลิเคชันการสร้างรหัสยืนยัน เพื่อป้องกันการเข้าถึงบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต

  6. ป้องกันการคลิกเชื่อมโยงไม่น่าเชื่อถือ หลีกเลี่ยงการคลิกเชื่อมโยงที่ไม่น่าเชื่อถือในอีเมลหรือข้อความสั้น อาจเป็นเทคนิคการล่อให้คลิกเพื่อดึงข้อมูลส่วนตัวหรือติดตั้งซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย

  7. ระมัดระวังในการใช้งานโซเชียลมีเดีย อย่าเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวที่อาจเป็นอันตรายบนโซเชียลมีเดียโดยไม่ได้คิดอย่างระมัดระวัง ควรตรวจสอบความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่คุณโพสต์และตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้เหมาะสม

  8. หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือ หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจากไฟล์เหล่านั้นอาจมีเชื้อสายพันธุ์มัลแวร์ที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของระบบของคุณ

  9. อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวให้กับคนที่ไม่รู้จัก อย่าเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญ เช่น หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขบัตรเครดิต หรือรหัสผ่านให้กับบุคคลที่คุณไม่รู้จักหรือไม่เชื่อถือได้

  10. คำนึงถึงความปลอดภัยของอุปกรณ์เครือข่าย ควรตรวจสอบและปรับค่าความปลอดภัยของอุปกรณ์เครือข่าย เช่น รูทเตอร์ ฟายวอลล์ หรือฟรีวอลล์ และใช้การตั้งค่าที่มีความปลอดภัยสูงเพื่อป้องกันการเข้าถึงจากบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต

  11. สำรองข้อมูลอย่างเป็นประจำ สำรองข้อมูลสำคัญเพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลจากการโจรกรรมหรือเหตุสุดวิสัย เก็บข้อมูลสำรองในอุปกรณ์ภายนอกหรือบนคลาวด์

  12. อัปเดตระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชัน อัปเดตระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันในอุปกรณ์ของคุณเป็นประจำ เนื่องจากมีการแก้ไขและปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัย

  13. ระมัดระวังในการใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์ ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ที่เชื่อถือได้และมีความปลอดภัยสูงเมื่อต้องทำรายการทางอินเทอร์เน็ต เช่น เว็บไซต์ที่มีค่ายชื่อเสียง หรือแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ที่มีการรับรองความปลอดภัย

  14. ศึกษาและเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิคการโจมตีออนไลน์ ศึกษาและเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิคการโจมตีออนไลน์ เช่น การฟิชชิ่ง (Phishing) การโจมตีด้วยซอฟต์แวร์แอดแวร์ (Malware) หรือการโจมตีด้วยการยิงระเบิดข้อมูล (DDoS) เพื่อทราบวิธีป้องกันและการตรวจจับในกรณีเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น

การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยเป็นกระบวนการที่ต้องทำควบคู่กับการปฏิบัติตามหลักความปลอดภัยอื่นๆ และการเข้าใจความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การรักษาความปลอดภัยอินเทอร์เน็ตให้มีมาตรฐานสูงจำเป็นเพื่อปกป้องคุณและข้อมูลส่วนตัวของคุณจากการโจรกรรมที่อาจเกิดขึ้นในโลกดิจิทัลได้อย่างเหมาะสม

 

การใช้อินเทอร์เน็ต อย่าง ปลอดภัย 15 ข้อ

ดังนั้น นี่คือการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย 15 ข้อ

  1. ใช้โปรแกรมและแอนติไวรัสที่มีความปลอดภัยสูง และอัปเดตโปรแกรมเป็นประจำเพื่อรับข้อมูลการป้องกันล่าสุดจากผู้พัฒนา.

  2. ใช้การเชื่อมต่อแบบปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสแบบ WPA2 หรือ WPA3 เมื่อเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi.

  3. ใช้การเข้ารหัสข้อมูลเมื่อส่งหรือรับข้อมูลที่สำคัญผ่านอินเทอร์เน็ต เช่น การใช้เชื่อมต่อที่เข้ารหัส (HTTPS).

  4. เปิดใช้งานการยืนยันสองขั้นตอน (Two-Factor Authentication) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าสู่ระบบ.

  5. ใช้รหัสผ่านที่แข็งแรง ที่มีความยากต่อการคาดเดาและหลีกเลี่ยงการใช้รหัสผ่านเดิมในหลายๆ บัญชี.

  6. ป้องกันการคลิกเชื่อมโยงไม่น่าเชื่อถือ หลีกเลี่ยงการคลิกเชื่อมโยงที่ไม่น่าเชื่อถือในอีเมลหรือข้อความสั้น.

  7. ระมัดระวังในการใช้งานโซเชียลมีเดีย อย่าเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวที่อาจเป็นอันตรายโดยไม่ได้คิดอย่างระมัดระวัง.

  8. หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือเพื่อป้องกันภาวะเข้าสู่ระบบแอบแฝง.

  9. ไม่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญ เช่น หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขบัตรเครดิต หรือรหัสผ่านให้กับบุคคลที่ไม่รู้จักหรือไม่เชื่อถือได้.

  10. ความรับผิดชอบในการใช้งานและการแชร์ข้อมูล ตรวจสอบและตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเพื่อความปลอดภัยในการใช้และแชร์ข้อมูล.

  11. การใช้งานแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือและมีการรับรองความปลอดภัย.

  12. อัปเดตระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันในอุปกรณ์ของคุณเป็นประจำ.

  13. รักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์เครือข่าย เช่น รูทเตอร์ ฟายวอลล์ หรือฟรีวอลล์ ด้วยการตั้งค่าที่มีความปลอดภัยสูง.

  14. สำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ เก็บข้อมูลสำรองในอุปกรณ์ภายนอกหรือบนคลาวด์.

  15. เรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิคการโจมตีออนไลน์ เพื่อทราบวิธีป้องกันและการตรวจจับในกรณีเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น.

การปฏิบัติตามข้อแนะนำดังกล่าวจะช่วยให้คุณใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยและป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายจากการโจรกรรมออนไลน์ได้เป็นอย่างดี อย่าลืมที่จะปรับใช้และประยุกต์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการของคุณด้วย.

 

การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างเหมาะสม

การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างเหมาะสมคือการใช้และปฏิบัติตามกฎระเบียบและหลักความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้อินเทอร์เน็ตเป็นประโยชน์และปลอดภัยที่สุด นี่คือบางแนวทางที่เหมาะสมในการใช้อินเทอร์เน็ต

  1. ระมัดระวังในการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว อย่าเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวที่มีความละเอียดสูงหรือที่อาจเป็นอันตราย เช่น ข้อมูลบุคคลสำคัญ หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขบัตรเครดิต หรือรหัสผ่านให้แก่บุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต

  2. ใช้รหัสผ่านที่แข็งแรง สร้างรหัสผ่านที่ยากต่อการคาดเดา โดยควรมีความยาวขั้นต่ำ 8-12 ตัวอักษร รวมถึงตัวอักษรใหญ่-เล็ก ตัวเลข และอักขระพิเศษ และหลีกเลี่ยงการใช้รหัสผ่านที่ซ้ำกันในหลายๆ บัญชี

  3. อัปเดตและป้องกันซอฟต์แวร์ อัปเดตระบบปฏิบัติการ และโปรแกรมต่างๆ ในอุปกรณ์ของคุณเป็นประจำ โดยให้ความสำคัญกับการป้องกันซอฟต์แวร์ที่มีช่องโหว่อาจถูกการโจรกรรม

  4. ใช้แอนติไวรัสและซอฟต์แวร์ป้องกัน ติดตั้งและอัปเดตซอฟต์แวร์แอนติไวรัสที่มีความปลอดภัยสูง เพื่อป้องกันการติดเชื้อมัลแวร์และโจรกรรมที่อาจเกิดขึ้นจากไฟล์หรือเว็บไซต์ที่เสี่ยง

  5. เลือกใช้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่น่าเชื่อถือ ให้ความสำคัญกับการใช้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยม เช่น เว็บไซต์ทางการเงินหรือแพลตฟอร์มการซื้อขายที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง

  6. ใช้การเชื่อมต่อที่ปลอดภัย เมื่อเข้าสู่ระบบหรือทำธุรกรรมออนไลน์ ให้ใช้การเชื่อมต่อที่เป็นประโยชน์ เช่น การใช้เชื่อมต่อเข้ารหัส (HTTPS) หรือใช้เครือข่ายเสมือนส่วนตัว (VPN) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของการสื่อสารของคุณ

  7. ระมัดระวังในการแชร์ข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย ควรตรวจสอบและปรับแต่งการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในโปรไฟล์ส่วนตัวของคุณ เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวและลดความเสี่ยงจากการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล

  8. ใช้การยืนยันสองขั้นตอน เปิดใช้งานการยืนยันสองขั้นตอน เช่น การใช้รหัสผ่านและรหัสยืนยันทาง SMS หรือแอปพลิเคชันการสร้างรหัสยืนยัน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าสู่ระบบ

  9. ตรวจสอบการให้สิทธิ์แอปพลิเคชัน เมื่อติดตั้งแอปพลิเคชันใหม่ ควรตรวจสอบสิทธิ์ที่แอปพลิเคชันขอเข้าถึง เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต

  10. อย่าคลิกเชื่อมโยงที่ไม่น่าเชื่อถือ ระมัดระวังในการคลิกเชื่อมโยงในอีเมลหรือข้อความที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจเป็นเทคนิคการฟิชชิ่งหรือการโจมตีอื่นๆ เพื่อหลอกล่อข้อมูลส่วนบุคคลหรือติดตั้งซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย

  11. ใช้ความระมัดระวังในการส่งและรับอีเมล หลีกเลี่ยงการเปิดแฟ้มแนบจากอีเมลที่ไม่รู้จักหรือไม่น่าเชื่อถือ และระวังไม่ให้เปิดเอกสารหรือลิงก์ที่อาจเป็นอันตราย

  12. ประยุกต์การใช้งานคุ้มครองเพิ่มเติม ใช้งานโปรแกรมคุ้มครองความเป็นส่วนตัว และเครื่องมือความปลอดภัยอื่นๆ เช่น แท็กเตอร์การสแกนไวรัส หรือการบล็อกโฆษณาที่ไม่น่าเชื่อถือ

  13. ระวังการใช้งานเครือข่ายสัญญาณสาธารณะ หลีกเลี่ยงการใส่ข้อมูลส่วนตัวที่มีความละเอียดสูง เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลการเงิน ผ่านเครือข่ายสาธารณะที่ไม่ปลอดภัย

  14. เรียนรู้เกี่ยวกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น ศึกษาและเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิคการโจมตีออนไลน์ เช่น การฟิชชิ่ง การโจมตีด้วยซอฟต์แวร์แอดแวร์ หรือการโจมตีด้วยการยิงระเบิดข้อมูล เพื่อเป็นการรู้จักและป้องกันในกรณีที่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น

  15. ตรวจสอบและปรับแต่งการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว ตรวจสอบและปรับแต่งการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในบริการออนไลน์ที่คุณใช้ เพื่อความปลอดภัยและความเชื่อถือได้สูงสุด

การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างเหมาะสมคือการรักษาความปลอดภัยของตนเองและข้อมูลส่วนบุคคล และการปฏิบัติตามหลักการปลอดภัยที่แนะนำเพื่อลดความเสี่ยงจากการโจรกรรมและการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล แนะนำให้ปฏิบัติตามและปรับใช้แนวทางดังกล่าวเพื่อให้การใช้อินเทอร์เน็ตเป็นประโยชน์และปลอดภัยต่อตนเองและผู้ใช้งานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

 วิธีการป้องกันการเข้าถึงข้อมูลและคอมพิวเตอร์

  • การใช้ username หรือ user ID และ รหัสผ่าน (password) ผู้ใช้ควรเปลี่ยนแปลงด้วยตนเองในภายหลัง และควรหลีกเลี่ยงการกำหนดรหัสที่เป็นวันเกิด หรือรหัสอื่นๆ ที่ แฮกเกอร์สามารถเดาได้
  • การใช้วัตถุใด ๆ เพื่อการเข้าสู่ระบบ ได้แก่ บัตร หรือกุญแจ ซึ่งรหัสผ่านไม่ควรใช้ปีเกิด หรือจดลงในบัตร
  • การใช้อุปกรณ์ทางชีวภาพ (biometric device) เป็นการใช้อุปกรณ์ที่ตรวจสอบลักษณะส่วนบุคคลเพื่อการอนุญาตใช้โปรแกรม ระบบ หรือการเข้าใช้ห้องคอมพิวเตอร์
  • ระบบเรียกกลับ (callback system) เป็นระบบที่ผู้ใช้ระบุชื่อและรหัสผ่านเพื่อขอเข้าใช้ระบบปลายทาง หากข้อมูลถูกต้อง คอมพิวเตอร์ก็จะเรียกกลับให้เข้าใช้งานเอง อย่างไรก็ตามการใช้งานลักษณะนี้จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นถ้าผู้ขอใช้ระบบใช้เครื่องคอมพิวเตอร์จากตำแหน่งเดิม คือ จากบ้าน หรือที่ทำงาน (หมายเลขโทรศัพท์เดิม)ในขณะที่การใช้คอมพิวเตอร์แบบพกพาอาจต้องเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ ทำให้เกิดความเสี่ยงมากกว่า

จาก พรบ. ดังกล่าว สามารถสรุปได้ย่อๆ ดังนี้คือ แบ่งเป็น 10 ข้อห้าม และ 10 ข้อที่ควรกระทำ

10 ข้อห้าม
  1. ห้ามเจาะ ข้อมูลคนอื่นที่ตั้ง Password เอาไว้
  2. ห้ามเอา Password หรือระบบรักษาความปลอดภัยมั่นคงผู้อื่นไปเปิดเผย
  3. ห้ามล้วงข้อมูลคนอื่นโดยยังไม่ได้รับอนุญาต
  4. ห้ามดัก e-mail ส่วนตัวคนอื่นขณะทำการส่ง e-mail
  5. ห้ามแก้ไข ทำลายข้อมูลคนอื่นโดยไม่ได้รับความยินยอม
  6. ห้ามก่อกวน ระบบคนอื่นจนระบบล่ม
  7. ห้ามส่ง ฟอร์เวิร์ดเมลล์รบกวนคนอื่น จนก่อให้เกิดความเดือดร้อน
  8. ห้ามรบกวน ระบบโครงสร้างทางด้านสาธารณูปโภคและความมั่นคงของประเทศ
  9. ห้ามเผย โปรแกรมที่ใช้ในการทำผิด
  10. ห้ามส่งต่อ ภาพลามกและเนื้อหาที่ทำลายความมั่นคงของประเทศ
10 ควรกระทำ
  1. ทำเปลี่ยน…Password ทุกๆ 3 เดือน
  2. ไม่แชร์…Password กับผู้อื่น
  3. ใช้ Password เสร็จต้องออกจากโปรแกรมทันที
  4. ตั้งระบบป้องกันการเจาะข้อมูล
  5. ควรเก็บรักษาข้อมูลของตนอย่างดีและต้องไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวกับผู้อื่น
  6. ควรอ่านเงื่อนไขให้ละเอียดก่อนดาวน์โหลดโปรแกรม
  7. ควรแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่เมื่อพบเจอการกระทำความผิด
  8. ควรบอกต่อคนใกล้ชิด เช่น เพื่อน คนในครอบครัว ให้ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างระมัดระวัง
  9. ควรไม่ใช้ โปรแกรมที่ผิดกฎหมาย
  10. ควรไม่หลงเชื่อโฆษณาหรือเนื้อหาในเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม จนอาจถูกหลอกได้

 

ที่มาbaanjomyut.com/library_2/extension-1/information_technology_law_in_thailand/05.html

ปก Cloud Computing จัดการธุรกิจ

ใช้งานเทคโนโลยี Cloud Computing จัดการธุรกิจ

Cloud Computing มีอะไรบ้าง ประเภทของ cloud computing คุณสมบัติของ cloud computing model การให้บริการ cloud computing มี 3 ประเภทคือ ประโยชน์ของ cloud computing Cloud Computing คือ การประยุกต์ใช้ cloud computing ในด้านธุรกิจ ข้อดีของ cloud computing คือ
ภูมิปัญญาท้องถิ่น

ภูมิปัญญาท้องถิ่น ไทย 10 ประกอบ อาชีพ ดำรงชีวิต

ภูมิปัญญาท้องถิ่น ความหมาย ภูมิปัญญาไทย ภูมิปัญญาท้องถิ่น ความเข้าใจ วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย ความสําคัญของภูมิปัญญาท้องถิ่น ประเภทของภูมิปัญญาไทย ตัวอย่างภูมิปัญญาไทย
หนังสือมอบอำนาจ

หนังสือมอบอํานาจ 7 โอนรถ ทั่วไป ที่ดิน ขนส่ง WORD

หนังสือมอบอํานาจ หนังสือมอบอำนาจ ตัวอย่างหนังสือมอบอํานาจบริษัท วิธีเขียนหนังสือมอบอํานาจ บุคคลทั่วไป ตัวอย่างการเขียนหนังสือมอบอํานาจ ตัวอย่างการเขียนหนังสือมอบอํานาจ เอกสารสูญหาย
ปก การตลาดออนไลน์

การทําการตลาดออนไลน์ มีอะไรบ้าง เบื้องต้น

การทําการตลาดออนไลน์ มีอะไรบ้าง การตลาดออนไลน์ ทําอะไรบ้าง การตลาดออนไลน์เบื้องต้น แผนการตลาดออนไลน์ ตัวอย่าง การตลาดออนไลน์ กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ทําการตลาดออนไลน์ ให้ได้ผล
ปก การจัดการธุรกิจออนไลน์

การจัดการธุรกิจออนไลน์ แนวคิด มีขั้นตอนอะไรบ้าง

การจัดการธุรกิจออนไลน์ หมายถึง การทําธุรกิจออนไลน์ มีอะไรบ้าง แนวคิด การทําธุรกิจออนไลน์ การทําธุรกิจออนไลน์ มีขั้นตอนอะไรบ้าง วิธีการบริหารจัดการร้านค้าออนไลน์ การทําธุรกิจออนไลน์ คือ หลักการบริหารร้านค้า วิธีการสร้างธุรกิจใหม่มี 3 วิธี
ภาษีมูลค่าเพิ่ม

ภาษีมูลค่าเพิ่ม เสีย 7% ภายในกี่วัน VAT ในอัตรา

ภาษีมูลค่าเพิ่ม การเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ภายในกี่วัน VAT 10 คืออะไร ภาษีมูลค่าเพิ่ม กี่เปอร์เซ็น รายได้เท่าไรต้องจด VAT ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ปัจจุบันเก็บในอัตราใด ใครจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ประกอบการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมายมีดังนี้ Tax คือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม คิดยังไง ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษาอังกฤษ ฐานภาษีมูลค่าเพิ่มคืออะไร VAT 0 กับ Non VAT สถานที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มคือที่ใด บุคคลธรรมดา จด vat หัก ณ ที่จ่าย ภาษีธุรกิจเฉพาะ คือ รายได้เกิน 8 ล้าน แต่ไม่ได้จด vat สาขา SBT คือ บริษัท ไม่จดภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีมูลค่าเพิ่ม กับโรคโควิด หนังสือ ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีบำรุงท้องที่คืออะไร หน่วยงานใดมีหน้าที่จัดเก็บภาษีอากร ภาษีโรงเรือนและที่ดินคืออะไร ภาษีสรรพสามิต คืออะไร ภาษีซื้อ หมายถึง

ทํานายความฝันเห็นงู 7 เลขเด็ด งูกัด เหลือมตัวใหญ่

ฝันเห็นงูเลขเด็ด ฝันเห็นงูใหญ่เลขเด็ด ฝันเห็นงูกัด ฝันเห็นงูเหลือมตัวใหญ่ ฝันเห็นงู1ตัว ฝันเห็นงูตัวใหญ่ 1 ตัว ฝันเห็นงูเลื้อยมาหา ฝันเห็นงูหลายตัว เลขเด็ด
ปก การเริ่มต้นเป็นนักธุรกิจ

การเริ่มต้นเป็นนักธุรกิจ smes ปฏิบัติอย่างไร

การเริ่มต้นเป็นนักธุรกิจ smes ต้องปฏิบัติอย่างไร วิธีการวางแผนทางการเงินสำหรับธุรกิจมี 2 ลักษณะ วิธีการสร้างธุรกิจใหม่มี 3 วิธี การบริหาร การเงิน ในธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ ควร ปฏิบัติ อย่างไร วิธี เก็บเงิน ธุรกิจส่วนตัว แนวคิดในการเริ่มต้นธุรกิจขนาดย่อม เงินสด ในทาง ธุรกิจ คือ การวางแผนทางการเงินหมายถึงอะไร และมีลักษณะอย่างไรบ้าง

Leave a Comment

Scroll to Top